วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สทท. ขานรับนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ดันท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ หนุนตั้ง Tourism War Room ขับเคลื่อนท่องเที่ยวแบบเรียลไทม์ พร้อมแถลงโครงการเสริมศักยภาพผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล กิจกรรม ความฝันไม่มีวันหมดอายุ

สทท. ขานรับนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ดันท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ หนุนตั้ง Tourism War Room ขับเคลื่อนท่องเที่ยวแบบเรียลไทม์

พร้อมแถลงโครงการเสริมศักยภาพผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล กิจกรรม ความฝันไม่มีวันหมดอายุ

        นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ รศ.ผกากรอง เทพรักษ์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ร่วมกันแถลงข่าว "ดัชนีชี้วัดผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย" ตามด้วยการแถลงข่าว "โครงการเสริมศักยภาพผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล กิจกรรมความฝันไม่มีวันหมดอายุการใช้งาน" โดยมี คุณภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการฯ รวมทั้งการเสวนา "ทำไมต้องมี โครงการเสริมศักยภาพผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล กิจกรรมความฝันไม่มีวันหมดอายุการใช้งาน" โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้กำกับหนังชื่อดัง ได้แก่ นายธนิตย์ จิตนุกูล นายปรัชญา ปิ่นแก้ว คุณภรณี ภู่ประเสริฐ นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ นายราเชนท์ ลิ้มกตระกูล และบัณฑิต ทองดี ร่วมเสวนา ดำเนินการโดยนายกฤตภาส ต๊ะประจำ ที่ปรึกษาโครงการฯ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นางสาวรพีรัตน์ ราชาพชร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาลูกค้าสถาบันและองค์กรชุมชน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และสื่อมวลชน ร่วมงานจำนวนมาก ณ ชั้น 10 อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2566


      สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ระดับ 69  สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เป็นต้นมา เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของทั้งคนไทยและต่างชาติ ประกอบกับประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรฐกิจไทยที่ยังไม่แน่นอนและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤติควิด-19 นอกจากนี้ยังกังวลเกี่ยวกับ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น


     ช่วงต้นไตรมาสประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้า นอกจากนี้ภาคการส่งออกของไทยหดตัว 10 เดือนติดต่อกัน ส่งผลให้เม็ดเงินในมือของประชาชนน้อยลง  จากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้  จึงส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น  สถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาสนี้จึงต่ำกว่าไตรมาสที่ผ่านมา  แต่ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว  และยังถือว่าต่ำกว่าปกติในระดับมาก (ปกติ 100) ร้อยละ 76 ของสถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังมีรายได้น้อยกว่าก่อนเกิดวิกฤตโควิด –19


     โดยธุรกิจร้านอาหารมีรายได้มากที่สุด ประมาณร้อยละ 64  ของรายได้ก่อนเกิดวิกฤตโควิด–19  และร้านขายของฝากของที่ระลึกมีรายได้น้อยที่สุด ประมาณร้อยละ 46 กรุงเทพมหานครมีรายได้มากที่สุด ประมาณร้อยละ 59 ส่วนภาคตะวันออกและภาคตะวันตกมีรายได้น้อยที่สุด ประมาณร้อยละ 51


     ขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีจำนวนแรงงานประมาณร้อยละ 84 ของช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด –19  น้อยกว่าก่อนเกิดวิกฤตโควิด –19 ประมาณร้อยละ 16 (คิดเป็นจำนวนแรงงาน ประมาณ 600,000 ตำแหน่ง)  แต่มีสถานประกอบการเพียงร้อยละ 4 ที่ระบุว่าต้องการแรงงานเพิ่มในไตรมาสหน้า (ประมาณ 160,000 ตำแหน่ง)


       ส่วนการคาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาส 4/2566  ค่าดัชนีฯ อยู่ที่ 75 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการคาดว่าในไตรมาสหน้าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้นกว่าไตรมาสนี้ เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งมีวันหยุดยาวถึง 6 ช่วง และการจัดกิจกรรมในเทศกาลต่าง ๆ ในไตรมาสหน้าจะส่งผลต่อสถานการณ์ท่องเที่ยวให้ดีขึ้น


      นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีที่รัฐบาลเศรษฐา ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอันดับแรกๆ และตั้งเป้าแบบท้าทาย สร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยวไว้ที่ 4 ล้านล้านบาท โดยเน้นที่มูลค่ามากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว ทำให้ทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน และต้องปรับกลยุทธใหม่ นอกจาก Restart แล้ว ยังต้อง Reboost ทั้งออกแบบสินคัาและบริการตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับนักท่องเที่ยวคุณภาพยุคใหม่


      ในส่วนของภาคเอกชน เห็นการเดินหน้าเชิงรุก ทั้งเรื่องฟรีวีซา  การพัฒนาสนามบิน การตั้งทีมยุทธศาสตร์ Softpower และการเติมบูสเตอร์ซอตต่างๆ แล้วมีความมั่นใจว่าภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อน GDP ของประเทศและกระจายรายได้ให้คนไทยทั้งประเทศได้อีกครั้ง เป้าหมายรายได้ 4 ล้านล้านบาทนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ หากทุกภาคส่วน เอกชน ภาครัฐทุกกระทรวง ร่วมกันทำงาน กำจัดอุปสรรค สร้างจุดแข็งร่วมกัน และเพื่อให้เกิดการทำงานแบบ RealTime ที่มีประสิทธิภาพ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ขอเสนอให้มีการตั้ง Tourism Warroom ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงดีอีเอส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันสร้าง Tourism Big Data + Social Listening เพื่อทั้งรวบรวมข่าวสาร แก้เฟคนิวส์ ช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวให้ปลอดภัยและมั่นใจ รวมถึงการสร้าง Digital Content ที่มีพลังบวกให้สอดรับกับโอกาสใหม่ๆตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น และมีการสรุปนโยบายเชิงเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งเพื่อผลักดันโยบายเชิงรุกในยุค Tourism War Game นี้ที่หลายประเทศใช้ท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ Quick win ในการฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19


         สำหรับในส่วนของ "โครงการเสริมศักยภาพผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล กิจกรรม ความฝันไม่มีวันหมดอายุ" ที่ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) นั้น ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสถานการณ์ของผู้สูงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบทั้งทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม การเปลี่ยนแปลงบทบาททางสังคม และการเกษียณอายุ ผู้สูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายไปในทางเสื่อมมากกว่าการเจริญเติบโต ขาดความคล่องแคล่วว่องไว การเคลื่อนไหวร่างกาย ความคิดความอ่านช้าลง สภาพทางร่างกายเสื่อมถอยของกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ เป็นต้น


        การเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์สังคมสูงอายุจึงเป็นประเด็นที่สำคัญ จึงได้มีการจัดทำ "โครงการเสริมศักยภาพผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลภายใต้ กิจกรรมความฝันไม่มีวันหมดอายุ" เพื่อที่จะเชิญชวนผู้สูงอายุที่สนใจจากทั่วประเทศ ร่วมทำกิจกรรมความฝันไม่มีวันหมดอายุ เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะ ผ่านการบอกกล่าวเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา เล่าเรื่องความประทับใจหรือสิ่งที่เป็นความฝัน ที่ประทับใจที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา ผ่านการถ่ายด้วยมือถือหรืออุปกรณ์ที่ตนเองถนัด ส่งเป็นคลิปวีดีโอสั้นๆ ไม่เกิน 3-5 นาที เพื่อใช้ในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมความฝันไม่มีวันหมดอายุ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้ร่วมกันทำกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนในประเทศ

             โดยจะมีการส่งเสริมความรู้ด้านการผลิตสื่อคลิปวีดีโอสั้น ในด้านต่างๆ ดังนี้

    1.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จะสอนในการเรียนรู้ทักษะทางด้านดิจิทัล (Digital Skill) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญกับมนุษย์ทุกคน รวมไปถึงผู้สูงอายุด้วย เพราะทำให้เรารู้เท่าทัน มีความรอบคอบ ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลลงในสื่อสาธารณะ การรักษาความปลอดภัยของตนเองเมื่ออยู่ในระหว่างการใช้งานสื่อออนไลน์ หนึ่งตัวอย่างของการใช้ประโยชน์จากใช้เทคโนโลยีได้อย่างสร้างสรรค์เริ่มต้นจากการการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อพูดคุยกันได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าตัวผู้สนทนานั้นจะอยู่ห่างไกลกัน และนับเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ขยับจากกิจวัตรทั่วไปที่เราคุ้นชินกันกับการทักทายด้วยการสวัสดีกัน มาสู่เทคโนโลยีใหม่แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้เป็นที่มองเห็นถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดรอบตัวเรา หนึ่งในการขยับตัวของผู้ใช้งานที่เป็นผู้สูงอายุที่น่าสนใจคือ การส่งรูปสวัสดีตอนเช้าในวันต่างๆ มีภาพพื้นหลังเป็นรูปดอกไม้ต่างๆ สีสันสวยงามตามวันนั้น เช่น สวัสดีวันจันทร์แล้วมีภาพพื้นหลังเป็นรูปดอกทานตะวันหรือดอกดาวเรืองบานหรือดอกที่มีสีเหลืองเพื่อสื่อถึงสีเหลืองของวันจันทร์ มีคำคม คำอวยพร เป็นต้น     

         2. สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะบอกในเรื่องของบทบาท เป้าหมาย การสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับการใช้เทคโนโลยีกับการผลิตสื่อวีดีโอสั้นของผู้สูงอายุ โดยการบอกกล่าวเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา เล่าเรื่องความประทับใจหรือสิ่งที่เป็นความฝัน ที่ประทับใจที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา ผ่านการถ่ายด้วยมือถือหรืออุปกรณ์ที่ตนเองถนัด ส่งเป็นคลิปวีดีโอสั้นๆ ไม่เกิน 3-5 นาที เพื่อใช้ในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมความฝันไม่มีวันหมดอาย

       3. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นั้น จะให้ความสำคัญกับการผู้สูงอายุ เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้ทดลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำหรือบางคนได้เติมเต็มความฝันให้เป็นจริง ผ่าน "ดินแดนแห่งความสุข' สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องสุขภาวะหรือสุขภาพของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุตระหนักและเห็นคุณค่าของตนเองสังคมและช่วงวัยอื่นๆ เห็นศักยภาพของผู้สูงอายุในด้านดิจิทัล

        4. ส่วนการขยายผลในวันนี้คือ 

4.1 เพื่อเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลให้แก่ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการ 

4.2 เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและช่วยส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ หันมาสนใจในการผลิตคลิปวีดีโอสั้นเพื่อสร้างเป็นรายได้ 

4.3 เพื่อกระตุ้นให้สังคม/ช่วงวัยอื่นๆ เห็นศักยภาพของผู้สูงอายุในด้านดิจิทัล


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

CP LAND จาก ‘แบรนด์ผู้ท้าชิง’ ก้าวสู่ ‘แบรนด์เจ้าตลาด’ ติด Top 10 Brand Powerful Score

CP LAND จาก ‘แบรนด์ผู้ท้าชิง’ ก้าวสู่ ‘แบรนด์เจ้าตลาด’  ติด Top 10 Brand Powerful Score       บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ...