วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2565

"ทนายความพัทยาซิตี้" สุดฟิต ลงฟาดแข้งร่วมศึกถ้วยพระราชทานฯ ศึก Lawyer's Cup ครั้ง 24

"ทนายความพัทยาซิตี้" สุดฟิต

ลงฟาดแข้งร่วมศึกถ้วยพระราชทานฯ

ศึก Lawyer's Cup ครั้ง 24

          ความเคลื่อนไหวศึกลูกหนังทนายความระดับประเทศ  ศึกฟุตบอล  Lawyer's  Cup ครั้งที่ 24 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดโดยสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 -15 ม.ค. 2566 ที่สนามกีฬาสถาบันวิทยาลัยพลศึกษาวิทยาเขตชลบุรี จ.ชลบุรี


       นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ และที่ปรึกษากฎหมาย คุณกนกอร สวัสดิ์รัมย์ผู้จัดการทีมทนายความพัทยาซิตี้  เปิดเผยว่า ทีมฟุตบอล ทนายความพัทยาซิตี้  หลังทำผลงานคว้ารองแชมป์ศึกฟุตบอลทนายความ "พัทยา ลอว์เยอร์ เอฟเอคัพ ครั้งที่ 1" 


       เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมานั้น ล่าสุดทีมฟุตบอลทนายความพัทยาซิตี้ได้ลงทำการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง  และสภาพของทีมตอนนี้ นักเตะพร้อมแล้วที่จะลงทำศึกใหญ่แห่งปีของฟุตบอลทนายความ 


       โดยภาพรวมของทีมนั้นมีความฟิตสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็น เหลือเพียงการปรับระบบ และตำเหน่งการเล่นอีกนิดหน่อย ซึ่งทางทีมงานสต๊าฟโค้ชได้ติวเข้มในทุกตำแหน่ง  อีกทั้งนักเตะทุกคนมีความรักใคร่สามัคคีพร้อมที่จะลงทำการแข่งขัน เราจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำผลงานออกมาดีในการแข่งขันในครั้งนี้  สำหรับการแข่งขันฟุตบอล Lawyer's Cup ครั้งที่ 24 ที่จะมีขึ้นนี้ ทีมทนายความพัทยาชิตี้ วางเป้าทำผลงานทะลุเข้ารอบลึกๆ โดยนโยบายทีม นักเตะได้ลงสนามทุกคนเพื่อร่วมกิจกรรม





ททท. เซอร์ไพรส์ปีใหม่ 2023 ด้วย Voucher ราคาพิเศษ พร้อมส่วนลดมากมาย กับโครงการ Save Partner New Year Big Surprise

ททท. เซอร์ไพรส์ปีใหม่ 2023 ด้วย Voucher ราคาพิเศษ พร้อมส่วนลดมากมาย กับโครงการ Save Partner New Year Big Surprise

 นับตั้งแต่ประเทศไทยได้ประกาศเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ พร้อมมาตรการผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้การท่องเที่ยวภายในประเทศไทยกลับมาคึกคักเป็นอย่างมาก

รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ สามารถฟื้นตัว และกลับมาสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น

         อย่างไรก็ตาม แม้การเปิดประเทศและแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวจะส่งผลดีกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก แต่ก็นับว่าช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ทำให้ประเทศไทยและผู้ประกอบการเสียโอกาสในการขยายตัวของเศรษฐกิจ 

              ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยในมิติต่างๆ ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

กิจกรรม Save Partner New Year Big Surprise เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในราคา สุดพิเศษ พร้อมสิทธิพิเศษ และส่วนลดต่าง ๆ  ผ่าน Voucher ที่จะเปิดจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว     ชาวไทย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทโรงแรมที่พัก อาทิ แพ็กเกจที่พัก จากโรงแรมเขาใหญ่ลากูน่า ภูเก็ต, ริเวอร์แคว รีโซเทล, และโรงแรม ยู เชียงใหม่ 2) ประเภทร้านอาหาร อาทิ บัตรรับประทานอาหาร จากครัวเจ๊ง้อ, ครัวคุณกุ้ง, และแบล็คแคนยอน และ 3) ประเภทแพ็กเกจท่องเที่ยว อาทิ บัตรเข้าร่วมกิจกรรม จากสยามอะเมซิ่งพาร์ค ซีไลฟ์ แบงคอก และมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ รวมไปถึงแพ็กเกจท่องเที่ยวในเส้นทางต่าง ๆ เช่น เกาะห้อง กระบี่, เกาะล้าน ชลบุรี, และเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี


การมอบสิทธิพิเศษ และส่วนลดต่างๆ เหล่านี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว และที่พักชั้นนำในราคาประหยัดแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รวมไปถึงสนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น และเป็นกิจกรรมที่เปรียบเสมือนของขวัญส่งท้ายปี และต้อนรับปีใหม่ให้กับผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวไปพร้อมกัน

ผู้ที่สนใจซื้อ Voucher ของกิจกรรม Save Partner New Year Big Surprise ในราคาสุดพิเศษ สามารถเข้าไปที่ www.nybigsurprise.com ตั้งแต่ วันที่ 28 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 พร้อมชมรายละเอียดของกิจกรรมได้ที่ Facebook Fanpage Sale Here ในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.00 น.

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู นำคณะทำบุญใหญ่ จัดพิธีบวงสรวงพระราหู เสริมสิริมงคล วันคล้ายวันเกิด

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู นำคณะทำบุญใหญ่ 

จัดพิธีบวงสรวงพระราหู เสริมสิริมงคล วันคล้ายวันเกิด

                    ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษา บริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด และ ประธานที่ปรึกษา"มูลนิธิพระราหู"พร้อม ภริยาและ คุณหทัยรัตน์ ผิวพรรณ ที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู รวมทั้งคุณฐิติมา อภิธรรมวงศ์ ประธานบริหารบริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัดและครอบครัว จัดพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ พร้อมฉลองพระใหม่ และได้จัดพิธีสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม (จำลอง) รวมทั้ง จัดพิธีบวงสรวงองค์พระราหู เพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด ปี พ.ศ.2565 โดยมี พระครูวิกรมวุฒิธรรม (ปภงฺกโร) เจ้าอาวาสวัดบ้านบกน้อย เมตมาเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ พร้อมแขกผู้มีเกียรติ คนในครอบครัว กลุ่มเพื่อนสนิท เพื่อนพ้องน้องพี่เดินทางมาร่วมพิธีฯอย่างเนืองแน่น อาทิ พลเอกชนาธิป บุนนาค คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี,นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), นายมนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ,พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช. กมค.และภริยา,ดร.เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดกาฬสินธุ์,นายสัญญา นิลสุพรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นครสวรรค์ เขต 3 และนายฝันเด่น จรรยาธนากร  กลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชน ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน มาร่วมพิธีเพื่อเป็นสิริมงคลครั้งนี้ ณ มูลนิธิพระราหู สถานปฏิบัติธรรมหิรัณย์พัฒน์ ตำบล บัวลอย อำเภอ หนองแค สระบุรี เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2565

                   สำหรับมูลนิธิพระราหู และสถานปฏิบัติธรรมหิรัณย์พัฒน์ แห่งนี้เป็นการริเริ่มมาจากดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯซึ่งมีความเลื่อมใสต่อพระพุทธศาสนาและความศรัทธาต่อองค์พระราหู ดังนั้น จึงได้จัดสร้างองค์พระราหู และหลวงพ่อวัดบ้านแหลม(จำลอง) ประดิษฐานไว้ในสถานปฏิบัติธรรมหิรัณย์พัฒน์แห่งนี้ เพื่อให้ศาสนิกชน ประชาชนทั่วไปที่มาปฏิบัติธรรม ได้กราบไหว้สักการะบูชา เพื่อเป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจต่อไป


                ที่ผ่านมา "มูลนิธิพระราหู" ได้ร่วมกับนายฝันเด่น จรรยาธนากร กลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชน ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมและโครงการต่างๆเกี่ยวกับการกุศล มาตลอด เช่นโครงการมอบทุนการศึกษาให้เด็กเรียนดีแต่ยากจน สร้างบ้านให้ผู้ยากไร้ มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมทั่วทุกภาค มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา รวมทั้ง รับซื้อข้าวสารจากเกษตรกรเพื่อนำไปช่วยเหลือประขาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังได้มอบรถกู้ชีพกู้ภัยให้หน่วยกู้ภัยต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินให้ทันท่วงที


วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565

"สารวัตรแรมโบ้" เดินหน้าต่อเนื่อง "คดีตู้ ห่าว" ยื่นหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษ

"สารวัตรแรมโบ้" เดินหน้าต่อเนื่อง "คดีตู้ ห่าว" ยื่นหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษ


จากกรณีที่นายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ กับพวกคนจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจับกุมที่ผับจินหลิง ในท้องที่ สน.ยานนาวา ถูกแจ้งข้อหา 1. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 2. ร่วมกันค้ายาเสพติด 3. ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อยอดขยายผลบุกเข้าค้นบ้านหรู พร้อมยึดทรัพย์ ที่ดินจำนวนมาก พร้อมเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ปล่อยรถของกลางคนจีนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งพบเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจำนวนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องให้ความสะดวกรู้เห็นกับกลุ่มคนจีนที่ทำผิดกฎหมาย จากการให้สัมภาษณ์ของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากเหตุผลสำคัญและความจำเป็นดังกล่าวข้างต้น พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) มูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม รับคดีนายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ คนจีนที่แปลงสัญชาติไทยกับพวกที่เกี่ยวข้องทุกคนอยู่ในอำนาจการสอบสวนการดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับหนังสือ  เมื่อวันที่16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) มูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย กล่าวว่า ตนเองขอชื่นชมและต้องปรบมือให้กับการทำงานของกระทรวงยุติธรรมที่กล้าทำการยึดทรัพย์แก๊งค์ตนจีนสีเทากว่าหมื่นล้านบาท และตนก็ได้ปรึกษากับคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยข้าราชการทหารตำรวจ ผู้พิพากษา อัยการ นักกฎหมาย และทนายความจนตกผลึก เห็นควรว่า "ควรอย่างยิ่งที่ให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม ให้รับคดีนายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ คนจีนที่แปลงสัญชาติไทยกับพวกที่เกี่ยวข้องทุกคนอยู่ในอำนาจการสอบสวนการดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเงิน มีสมัครพรรคพวก มีกลุ่มข้าราชการบางส่วนและเจ้าหน้าที่ตำรวจบางหน่วยงานให้การสนับสนุนช่วยเหลือ

                                                

อีกทั้งเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศในขณะนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนทั้งประเทศและนักลงทุนต่างประเทศทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยใหผู้กระทำผิดทุกคนได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมายบ้านเมืองตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในสายบังคับบัญชาของกระทรวงยุติธรรมที่มีหน่วยงานสำคัญประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทำให้การสืบสวนและสอบสวนคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ หาว เจ๋อ ตู้ กับพวกคนจีนที่เกี่ยวข้อง เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เกิดความรวดเร็วสามารถตอบความเคลือบแคลงสงสัยต่อสังคมได้ หากยังอยู่ในอำนาจการสืบสวนสอบสวนการรวบรวมพยานหลักฐานฝ่ายตำรวจแต่ฝ่ายเดียว 

***พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย ฉายา "ตำรวจมือปราบพระกาฬ" อดีตสารวัตรกองปราบ นครบาล และผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ซึงทำคดีดังๆ ระดับชาติและนานาชาติมาแล้วมากมาย เช่น .คดีจ้างวานฆ่าคนสนิทหลวงพ่อคูณ คดีฆ่าถ่วงน้ำตระกูลตั้งฮั้วคดีฆ่าเผา 5 ศพตระกูลหลิมบุญเจียมปี 2537 .จับนายจาง ยาไฉ ชาวจีน มือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติ 100 ศพ นำคนร้ายส่งเมืองจีนด้วยตนเอง จับมือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติชาวเยอรมัน 2 คน  จับคนร้ายจำนวน 3 คนในคดีเรียกค่าไถ่นักศึกษาสาว จับกุมคนร้ายปล้นทรัพย์ เรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวจีนจำนวน 100 ล้านบาท เมื่อปี 2536 และยังมีคดีที่ปล้นชิงทรัพย์นักธุรกิจชาวจีนอีกหลายคดีที่พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช ได้ช่วยเหลือนักธุกิจชาวจีนที่ถูกปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์หลายคดี รวมทั้งคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญระดับนานาชาติอีกจำนวนมาก

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2565

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จัดประชุมกำหนดแนวทางเพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พ.ศ. 2566

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จัดประชุมกำหนดแนวทางเพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พ.ศ. 2566


เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดประชุมร่วมกับ  ภ.จว.ชลบุรี, สภ.เมืองพัทยา, ตม.ชลบุรี, ส.ทท.1, กก.5 บก.รน., ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., เมืองพัทยา, อำเภอบางละมุง, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี, สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) สำนักงานพัทยา, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา, สาธารณสุขอำเภอบางละมุง, สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก, สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา, คณะกรรมการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเมืองพัทยา, สมาคมผู้ประกอบการค้าวอล์คกิ้งสตรีทพัทยา และประธานชมรมผู้ประกอบการกลางคืนเมืองพัทยา  กำหนดแนวทางเพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ณ ห้องประชุมชั้น 2  Shambhala Hotel Pattaya อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

ละพิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นให้แก่กท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ พ.ศ. 2566 ณ แยกนิภารอท เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการแสดงความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยว ในการดูแลนักท่องเที่ยว และประชาชนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยมี พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. เป็นประธานในพิธี

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความสงบ เรียบร้อย การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทั่วราชอาณาจักร การให้ความปลอดภัย ให้บริการช่วยเหลือ  อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญในหลักการดังกล่าวข้างต้น จึงได้จัดพิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พ.ศ. 2566 และเป็นการยกระดับการเพิ่มอันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้านการรักษาความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

ดังนั้น การประชุมกำหนดแนวทางเพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว  และการปล่อยแถวในครั้งนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรับทราบถึงความตั้งใจของทุกภาคส่วน  โดยเฉพาะความพร้อมของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ พ.ศ. 2566

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขอฝากถึงนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชน ท่านสามารถแจ้งเหตุผ่าน สายด่วน 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง และแอพพลิเคชั่น ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว Tourist Police i lert u

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2565

"สารวัตรแรมโบ้" เดือด ยื่นหนังสือ 4 หน่วยงานรัฐ คดีตู้ห่าวไม่มีความคืบหน้า ไม่มีผล ไร้วี่แวว ชวนสงสัยมีผลประโยชน์ เดินหน้ายื่นหนังสือถึง ฯพณฯ สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเอกอัครราชฑูตสาธารณะรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย

"สารวัตรแรมโบ้" เดือด ยื่นหนังสือ 4 หน่วยงานรัฐ คดีตู้ห่าวไม่มีความคืบหน้า ไม่มีผล ไร้วี่แวว ชวนสงสัยมีผลประโยชน์

เดินหน้ายื่นหนังสือถึง ฯพณฯ สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย

พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทยไทย ฉายา "สารวัตรแรมโบ้" ตำรวจมือปราบพระกาฬ อดีตนายตำรวจมือตงฉินมือสะอาดเจ้าของฉายา ที่เคยเป็น อดีตสารวัตรกองปราบ นครบาล และผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งทำคดีดังๆ ระดับชาติและนานาชาติมาแล้วมากมาย เช่น .คดีจ้างวานฆ่าคนสนิทหลวงพ่อคูณ คดีฆ่าถ่วงน้ำตระกูลตั้งฮั้วคดีฆ่าเผา 5 ศพตระกูลหลิมบุญเจียมปี 2537 จับมือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติชาวเยอรมัน 2 คน  จับคนร้ายจำนวน 3 คนในคดีเรียกค่าไถ่นักศึกษาสาว และยังมีคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญระดับนานาชาติอีกจำนวนมาก 

รวมทั้งคดีที่เกี่ยวกับรัฐบาลจีน อาทิ 1. เคยทำงานร่วมกับนาย จาง หมิง หรือนายไมเคิล ผู้การกองปราบจากเกาะไหหลำร่วมกันสืบสวนจับกุมนายจาง ยาใฉ มือปืนรับจ้างข้ามชาติ นักฆ่า 100 ศพจากเมืองจีน ครั้งสุดท้ายได้ใช้อาวุธปืนสังหารนักธุรกิจ 3 คน บนเกาะไหหลำในร้านขายยาเมื่อปี พ.ศ. 2536 นำตัวส่งรัฐบาลจีน ดำเนินคดีที่เมืองไหโข่ว เกาะไหหลำ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน                                              

2. ได้ร่วมจับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคารชาติ 3 คน ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ยักยอกทรัพย์จำนวนเงิน ประมาณ 50 ล้านบาท ที่ธนาคารเมืองกว่างโจว เมื่อปี พ.ศ. 2536 นำตัวส่งดำเนินคดี 2 คน อีก 1 คน ผูกคอตายในห้องขังที่กองปราบปราม                                                                                                    

3. ได้ช่วยจับกุมคนร้ายปล้นทรัพย์ เรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวจีนจำนวน 100 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2536 ที่กรุงเทพมหานคร                                                                                                                      

4. ยังมีคดีที่ปล้นชิงทรัพย์นักธุรกิจชาวจีนอีกหลายคดีที่พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช ได้ช่วยเหลือนักธุกิจชาวจีนที่ถูกปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์หลายคดี

หลังยื่นหนังสือ 4 หน่วยงานรัฐ ได้แก่ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล   กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  คดีตู้ห่าวก็ยยังไม่คืบหน้า ไม่มีผล ไร้วี่แวว ยกเว้นกระทรวงยุติธีรรมแห่งเดียวที่กล้าทำการยึดทรัพย์แก๊งค์คนจีนสีเทากว่าหมื่นล้านบาท อันนี้ก็ต้องขอชื่นชม

        วันที่ 20 ธันวาคม 2565 พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช "สารวัตรแรมโบ้" ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทยไทย  พร้อมด้วยนายอำนวย โกวิทธรรมกรณ์ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ จึงได้เดินทางไปที่สถานฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่จากสันติบาลและสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางมาร่วมสังเกตการณ์


สืบเนื่องจากคดีของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ หาว เจ๋อ ตู้ กับพวกคนจีน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจับกุมที่ผับจินหลิง ในท้องที่ สน.ยานนาวา ถูกแจ้งข้อหา 1. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 2. ร่วมกันค้ายาเสพติด 3. ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย 4. ร่วมกันฟอกเงิน จีงขอความร่วมมือให้ทางรัฐบาลส่งชุดสืบสวนสอบสวนที่ประจำสถานฑูตจีนในประเทศไทยหรือส่งมาจากประเทศจีน ให้สืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐาน ประสานมาทางมูลนิธิฯ หรือกระทรวงยุติธรรมโดยด่วนที่สุด เพื่อนำตัวขบวนการอาชญากรข้ามชาติคนจีนสีดำสีเทามาดำเนินการถึงที่สุดในประเทศ รวมทั้งครอบครัวของคนจีนที่ทำผิดกฎหมาย โดยนำเครื่องมือพิเศษเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเชื่อว่าจะจับได้หมดในประเทศไทยเร็วที่สุด รวมถึงให้รัฐบาลจีนออกกฎหมายให้ลงโทษแบบรุนแรงที่สุดถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตและยึดทรัพย์สินที่ฉ้อโกงมาจากคนไทยในประเทศไทยให้ส่งทรัพย์สินคืนให้ประเทศไทย ส่วนทรัพย์สินที่ฉ้อโกงมาจากคนจีนให้ส่งทรัพย์สินคืนประเทศจีน

 






สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่ ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่  ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ชมการแสดงงิ้ว...