วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564

เปิดให้บริการแล้ว! วินอีวีรักษ์โลกพื้นที่บางกรวย หนุนขนส่งสาธารณะสีเขียว

เปิดให้บริการแล้ว! วินอีวีรักษ์โลกพื้นที่บางกรวย หนุนขนส่งสาธารณะสีเขียว

                    การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ส่งมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะในพื้นที่บางกรวยรวม 51 คัน พร้อมติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 3 แห่ง และพัฒนาแอปพลิเคชัน “ENGY Rider” หนุนขนส่งสาธารณะสีเขียว ตอบโจทย์ Carbon Neutrality 

                    นางสาวรฌทร สงวนพงศ์ นายอำเภอบางกรวย พร้อมด้วยนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมส่งมอบจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ให้แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะในพื้นที่บางกรวย จำนวน 51 คัน ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่ิอวันที่ 27 ธันวาคม 2564 

                 นางสาวรฌทร สงวนพงศ์ นายอำเภอบางกรวย กล่าวว่า โครงการนำร่องการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างสาธารณะในพื้นที่อำเภอบางกรวยซึ่งดำเนินการโดย กฟผ. ถือเป็นการนำร่องแห่งแรกใน จ.นนทบุรี เพื่อขับเคลื่อนบางกรวยสู่ชุมชนสีเขียว (Bangkruai Green Community) ด้านการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยไร้มลพิษ และสนองนโยบายภาครัฐในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนเก็บข้อมูลผลศึกษาการใช้งานมิติต่างๆ เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ทั้งนี้ ทางอำเภอบางกรวยได้คัดเลือกผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะเพื่อเข้าร่วมโครงการนำร่องรวมทั้งสิ้น 51 คน จากวินจักรยานยนต์รับจ้าง 9 จุดจอด คือ จุดท่าเรือพระรามเจ็ด จุดหน้า กฟผ. จุดตลาดหลัง กฟผ. จุดคอนโดสมชาย จุดตลาดนัดสมชาย จุดวัดจันทร์ จุดวัดชลอ จุดวัดสำโรง และจุดหน้าธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะให้ดีขึ้นจากรายจ่ายครัวเรือนที่ลดลงด้วย

           ด้านนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า การเดินหน้านำร่องรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างสาธารณะในพื้นที่อำเภอบางกรวยเป็นหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนนโยบาย EGAT Carbon Neutrality ลดปัญหาการปล่อยมลพิษทางอากาศและฝุ่น PM 2.5 จากภาคการขนส่ง รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยวันนี้ กฟผ. ได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ENGY ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ภายใต้แบรนด์ กฟผ. และได้รับการจดทะเบียนสาธารณะอย่างถูกต้องจำนวน 51 คัน ให้แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะเพื่อทดลองให้บริการประชาชนเป็นระยะเวลา 1 ปี 

ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและ กฟผ. จะศึกษาข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่ ผลกระทบด้านพลังงาน เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อขยายผลสู่รถรับจ้างสาธารณะทั่วประเทศ สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ENGY ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 กิโลวัตต์ วิ่งได้ระยะทาง 100 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รับน้ำหนักได้มากกว่า 150 กิโลกรัม มีการติดตั้งระบบ GPS Tracking เพื่อติดตามตำแหน่งของรถ และระบบควบคุมความปลอดภัย ระบบตัดคันเร่งเมื่อนำขาตั้งลง ทำให้ผู้ขับขี่และผู้รับบริการเกิดความรู้สึกมั่นใจ

            นอกจากนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping Station) จำนวน 3 แห่ง ซึ่งจะบรรจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิด NMC (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide) เพื่อรองรับการใช้งานที่ต่อเนื่อง ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ศูนย์บริการ ENGY Bike Service Point (ใกล้วัดสำโรง) และชุมชนวัดชลอ รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชัน “ENGY Rider” เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้งาน ซึ่งผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบแบตเตอรี่ในสถานีสับเปลี่ยน ระยะทางที่ขับขี่ การมีส่วนร่วมลดคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนผู้ใช้บริการก็สามารถดูข้อมูลผู้ขับขี่หรือเรียกใช้บริการซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในช่วงเดือนมกราคม 2565

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Year New Normal 2022)

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Year New Normal 2022)

          กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดพิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Year New Normal 2022) และการตรวจเยี่ยมมาตรการดูแลคัดกรองประชาชนที่มาใช้บริการห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล พร้อมตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ ดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนในห้วงการระบาดของโรคโควิด 19 ทุกสายพันธ์ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ตัวแทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)และสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ร่วมงานด้วย ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564

          กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้จัดให้มีการปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Year New Normal 2022) ในการอำนวยความสะดวก ปกป้องคุ้มครอง และรักษาไว้ซึ่งชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและประชาชน ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบันทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทุกคนต้องอยู่ในมาตรการการป้องกันไวรัส โควิดทุกสายพันธ์อย่างเข้มแข็ง และในส่วนของการท่องเที่ยวไทยนั้นเน้นการปรับตัวให้เป็นการท่องเที่ยว ที่มีความรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ซึ่งถือว่าจะเป็นการท่องเที่ยววิถีใหม่ยุคหลังโควิดที่จะทำให้การท่องเที่ยวของไทยนั้นยั่งยืน ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล


และในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ดำเนินงานการบูรณาการและทำงานเชิงรุกร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวไทย


       ทั้งนี้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายJo สร้างความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยววิถีใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว  โดยตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ควบคู่กับการดูแลสุขภาพของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทุกสายพันธ์เป็นสำคัญ

     นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอมอบแอพพลิเคชั่น "Tourist Police i lert u" เป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่ 2565 ซึ่งเพียงท่านดาวน์โหลดก็เหมือนมีตำรวจท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยตลอดเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่จะมาถึงนี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนชาวไทยทุกคน  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรับทราบถึงความตั้งใจของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความพร้อมของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Year New Normal 2022) นี้ ต่อไป 

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ เปิดงานเทศกาลหุ่นโคมไฟ นครสวรรค์ ครั้งที่ 4

ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ เปิดงานเทศกาลหุ่นโคมไฟ นครสวรรค์ ครั้งที่ 4


         นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานเปิดงาน "เทศกาลหุ่นโคมไฟ นครสวรรค์ ครั้งที่ 4" โดยมี พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ นายจิตตเกษม นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ นายอนันต์ ชำนาญโลหะวานิช ประธานหอการค้าจังหวัดนครสวรรค์ และนางสาวสิริพร ไกรสุวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครสวรรค์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมในพิธีเปิด ณ คลองญวนชวนรักษ์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564


         เทศกาลหุ่นโคมไฟ นครสวรรค์ ครั้งที่ 4 กับตำนานครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จัดขึ้นระหว่างวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564 ถึงวันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2565 เวลา 16.00-22.00 ณ คลองญวนชวนรักษ์



     โดยภายในงานจัดให้มีการโชว์โคมไฟประดิษฐ์เป็นรูปทรงต่างๆ อาทิ เรือสุพรรณหงษ์ เรือมังกร เรือสำเภา มังกร นางเงือกและปลาสวยงามว่ายในท้องทะเล เสาญี่ปุ่น และนางรำ ที่วิจิตรสวยงาม ตระการตา ให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ และถ่ายภาพเซลฟี่กันอย่างสนุกสนาน



     ททท.สำนักงานนครสวรรค์ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมเทศกาลหุ่นโคมไฟ นครสวรรค์ ครั้งที่ 4  และนักท่องเที่ยวนอกพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ สามารถร่วมกิจกรรมตักไข่มังกรลุ้นโชค ลุ้นรับรางวัลใหญ่กระเป๋าเดินทางสุดเท่  และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย จาก ททท.สำนักงานนครสวรรค์ เพียงแสดงบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน ณ บูธตักไข่มังกรลุ้นโชค  แค่นี้ก็ตักไข่มังกรลุ้นโชคได้แล้ว ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.-22.00 น.



#239สวรรค์ใกล้กรุง 

#นครสวรรค์เมืองรองต้องลองไป

#Amazingthailand 

#ททท. #เทศกาลหุ่นโคมไฟ

#ที่เที่ยวนครสวรรค์ 

#ปีใหม่ #เที่ยวนครสวรรค์ Amazingยิ่งกว่าเดิม

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564

จุดเทียนและวางเทียนรำลึกสึนามิ พร้อมกัน 2 จังหวัดที่หาดป่าตอง ภูเก็ต และอนุสรณ์สึนามิ พังงา

จุดเทียนและวางเทียนรำลึกสึนามิ พร้อมกัน 2 จังหวัดที่หาดป่าตอง

ภูเก็ต และอนุสรณ์สึนามิ พังงา

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา จัดกิจกรรมพิธีจุดเทียนและวางเทียนรำลึกสึนามิพร้อมกัน จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จัดที่หาดป่าตอง ส่วนจังหวัดพังงา จัดที่บริเวณสวนอนุสรณ์สึนามิ บ้านน้ำเค็ม จังหวัดพังงา โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมในพิธีด้วย


            ซึ่งกิจกรรมจุดเทียนรำลึกสึนามิ เป็นไฮไลท์ของ กิจกรรม Soul of the Sea : Memories of the Andaman “ความทรงจำแห่งท้องทะเล” จัดขึ้นเพื่อร่วมรำลึกถึงความสวยงามของท้องทะเลอันดามัน และเหตุการณ์รำลึกสึนามิ ครบรอบ 17 ปี

กิจกรรม Soul of the Sea : Memories of the Andaman “ความทรงจำแห่งท้องทะเล” จะจัดตลอดเดือนธันวาคม 2564 ณ จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง 

#TsunamiMemorialMonth #SouloftheSea

ททท.แพร่ เชิญชวนร่วมงานรวมพลคนปีขาล ตลอดปี 2565 ที่จังหวัดแพร่

ททท.แพร่ เชิญชวนร่วมงานรวมพลคนปีขาล ตลอดปี 2565 ที่จังหวัดแพร่

จังหวัดแพร่เตรียมความพร้อมจัดงานรวมพลคนปีขาลภายใต้ชื่อ รวมพลคนปีขาล (Year of Tiger 2022) โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วนในจังหวัดแพร่เป็นเจ้าภาพร่วมกัน อาทิจังหวัดแพร่ วัฒนธรรมจังหวัดแพร่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ และวัดพระธาตุช่อแฮ ฯลฯ

 และได้มีการจัดแถลงข่าวการจัดงาน รวมพลคนปีชาล 2565  โดยพระโกศัยเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง รองเจ้าคณะจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ คุณเสาวลักษณ์  วิสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดแพร่และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ และสิบเอกหญิงกรวรรณ สุ่มมาตย์ วัฒนธรรมจังหวัดแพร่ ร่วมแถลงข่าวด้วย ณ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่


สำหรับกิจกรรม “รวมพลคนปีขาล 2565” (Year Off Tiger 2022) หัวใจของงานคือการรวมพลคนปีขาล 2565 (Year Off Tiger 2022) พระธาตุช่อแฮเป็นศูนย์รวมพระธาตุประจำปีเกิดสำหรับผู้ที่เกิดปีขาล โดยมีเสือเป็นสัญลักษณ์หลัก และมีตุงมหามงคลเป็นส่วนเสริมที่เชื่อมโยงระหว่างชุมชน นักท่องเที่ยววัด ภาครัฐ และเอกชน

Time line การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวรวมพลคนปีขาล 2565 กำหนดจัดกิจกรรมตลอดปี 2565 อาทิ กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 กิจกรรมไหว้พระธาตุช่อแฮเมืองแพร่แห่ตุงหลวง และกิจกรรมอื่นๆ ที่สอดคล้องกับปีขาล อาทิ  เดือนมกราคม ธีมเสือสมหวัง ต้อนรับปีใหม่ 2565 เดือนกุมภาพันธ์ ธีมเสือคู่รัก เดือนมีนาคม ธีมเสือใจบุญ  งานไหว้พระธาตุช่อแฮเมืองแพร่แห่ตุงหลวง เดือนเมษายน ธีมเสือเล่นน้ำ เดือนพฤษภาคม ธีมเสือออมบุญ วันวิสากิจกรรมไหว้พระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุณี เดือนมิถุนายน ธีมเสือรวมเผ่า เดือนกรกฎาคม  ธีมเสือภักดี เดือนสิงหาคม ธีมเสือรักแม่ เดือนกันยายน กิจกรรมงานเกษียณ เป็นธีมเสือไว้ลาย เดือนตุลาคม ธีมเสือมหาราช เดือนพฤศจิกายน ธีมเสือยี่เป็ง กิจกรรมลอยกระทง เดือนธันวาคม ธีมเสือรักพ่อ เป็นต้น

นายอนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ กล่าวว่า ขณะนี้โลโก้ของรวมพลคนปีขาล 2565” ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ออกแบบโดยวัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง และจะติดโลโก้ในของที่ระลึกของจังหวัดแพร่ด้วย

แพร่มีดีมากกว่าที่เคยรู้จัก พบกับ theme เสือครบทั้ง 12 เดือนตลอดปี 2565 แล้วมาพบกับ เสือนอนกิน” ในแบบฉบับของ ททท.แพร่ ที่อยากเชิญชวนมาเที่ยวแพร่ครับ พร้อมแคมเปญที่เตรียมไว้ต้อนรับทุกท่าน และ “เสือกินจิ้น” ในแบบฉบับเรื่องวัฒนธรรมการกินอาหารพื้นบ้านล้านนาเมืองแพร่ เมนูอาหารเหนือ ลาบกินแล้วมีโชคมีลาภ เนื่องในปีขาล สำหรับคนปีขาล ชง 75% ปีวอกชง 100% มาแก้ชงเสริมบารมีด้วยการถวายตุงมงคล (ตุงคือสัญลักษณ์สื่อสารถึงเทพประจำตัว หรือเทวดารักษาตัว ให้ช่วยให้คุ้มครอง) ที่วัดพระธาตุช่อเเฮ                                   

รวมพลคนปีขาล เมืองแพร่เมืองแห่งตุงอยู่ดีมีสุข และดำเนินชีวิตให้มีความสุขความเจริญ ไม่เฉพาะการมาทำบุญขอพรที่วัดพระธาตุช่อแฮ ททท.แพร่ จึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาไหว้พระขอพรในปีเสือที่เมืองแพร่ และถวายตุงมหามงคลเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระธาตุช่อแฮด้วยกัน

ปล.มีของที่ระลึกจาก ททท.แพร่ ด้วยนะครับ สำหรับผู้ที่เข้าพักแรมในจังหวัดแพร่

 

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2564

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทุ่มงบกว่า 34 ล้านบาท ลงพื้นที่ 4 ภาค รวม 43 จังหวัด มอบไออุ่นพร้อมถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยหนาว มอบแท็งก์/ถังบรรจุน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และมอบศาลาที่พักผู้โดยสารเพื่อผู้ใช้รถใช้ถนน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทุ่มงบกว่า 34 ล้านบาท ลงพื้นที่ 4 ภาค รวม 43 จังหวัด มอบไออุ่นพร้อมถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยหนาว มอบแท็งก์/ถังบรรจุน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และมอบศาลาที่พักผู้โดยสารเพื่อผู้ใช้รถใช้ถนน


            มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ มอบหมายให้นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการมูลนิธิฯ จัดทีมสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่แจกจ่ายผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบ “ภัยหนาว” ในถิ่นทุรกันดาร ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย เชียงใหม่  ลพบุรี เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม บึงกาฬ สกลนคร นครนายก กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคิรีขันธ์ ชุมพร รวม 43 จังหวัด รวมผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 46,900 ชุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 27 ล้านบาท พร้อมทั้งจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนออกบริการประชาชนฟรีทั้งในด้านการตรวจรักษา แจกจ่ายยา และคัดกรองเบาหวานเบื้องต้นในพื้นที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี และนครพนม ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน – 26 ธันวาคม 2564



         นอกจากนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังได้มอบแท็งก์บรรจุน้ำขนาด 20,000 ลิตร และถังบรรจุน้ำไฟเบอร์ (สำเร็จรูป) ขนาด 2,000-5,000 ลิตร  เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนที่ขาดแคลนน้ำในการบริโภคในช่วง “ภัยแล้ง” ในพื้นที่ภาคเหนือ – อีสาน รวมจำนวน 100 ถัง รวมมูลค่ากว่า 2.6 ล้านบาท และยังมอบศาลาที่พักผู้โดยสารเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อหลบแดดหลบฝนในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสานรวม 34 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.2 ล้านบาท เพื่อให้การลงพื้นที่บรรเทาทุกข์สาธารณภัยในถิ่นทุรกันดารเป็นไปอย่างทันท่วงทีต่อการรับมือสถานการณ์ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี



           โดยวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี (ต่อเนื่อง) มอบผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 500 ชุด แก่ผู้ประสบภัยหนาว ณ บริเวณวัดโพธิ์เมืองวนาราม อ.เขมราฐ พร้อมกันนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมแพทย์อาสาและเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ให้บริการ ตรวจรักษาโรคทั่วไป แจกจ่ายยา แจกแว่นสายตา และ คัดกรองเบาหวานเบื้องต้น โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยมูลนิธิการกุศลสามัคคีสว่างบูชาธรรมสถาน จ.อุบลราชราชธานี เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี และในวันเดียวกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบศาลาที่พักผู้โดยสาร ณ บริเวณหน้าโรงพยาบาลกุดข้าวปุ้น อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี และได้เดินทางไปยังจ.อำนาจเจริญ เพื่อมอบถังบรรจุน้ำเพื่อการบริโภค ขนาด 3,000 ลิตร  จำนวน 3 ถัง พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 500 ชุด ณ บริเวณหมู่ 1 ต.สร้างนกทา อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยมูลนิธิจีตี่เกาะอำนาจเจริญ  เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี



              โครงการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยหนาว เป็นโครงการที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งดำเนินการต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 60 ปี รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครบวงจรชีวิต ภายใต้ปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”  ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่ ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่  ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ชมการแสดงงิ้ว...