วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2564

ททท. เดินหน้ากระตุ้นการเดินทางในประเทศกับโครงการ Workation Thailand “ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ : Work from Everywhere”

ททท. เดินหน้ากระตุ้นการเดินทางในประเทศกับโครงการ Workation Thailand “ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ : Work from Everywhere”


            นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Workation Thailand “ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ: Work from Everywhere” โดยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. ดร.สุทธิชัย จูประเสริฐพร รองผู้ว่าการบริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และนายวรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ ร่วมในงานแถลงข่าว ถ่ายทอดสดผ่านระบบ Live Streaming ทางแฟนเพจ Facebook Thairath – ไทยรัฐออนไลน์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564

              นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

           กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ดำเนินการโครงการ Workation Thailand “ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ : Work from Everywhere” ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในประเทศมากขึ้น โดยเป็นการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมธุรกิจในภาคของการบริการที่พัก มาให้บริการเพื่อรองรับรูปแบบการทำงานที่เป็นอิสระเรื่องสถานที่ทำงานมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันทุกคนไม่จำเป็นต้องทำงานในที่ทำงานเสมอไป สามารถเปลี่ยนทุกที่ให้เป็นที่ทำงาน จัดกิจกรรม การประชุม เจรจาธุรกิจ หรือการพบปะสังสรรค์ได้ โดยสามารถเลือกสถานที่ทำงานได้ตามต้องการ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและผ่อนคลายด้วยบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม

                 ซึ่งทาง ททท. ได้สร้างช่องทางการนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวในกลุ่ม Workation ผ่านออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงสินค้าของคนทำงานยุคใหม่ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสามารถปรับและเปลี่ยนจากธุรกิจที่พักแบบเดิมมาสู่มิติใหม่ของการบริการเพื่อตอบโจทย์ความนิยมในปัจจุบันคือ การทำงานและท่องเที่ยวในเวลาเดียวกันได้ เป็นโอกาสและการยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยให้สามารถเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน

       โดยคน Workation Thailand “ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ : Work from Everywhere” ททท. จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ เป็นการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวของไทยภายใต้สถานการณ์      โควิด-19 รวมถึงเป็นการตอบสนองความต้องการของคนยุคใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลง กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ฯลฯ ในการสร้างสินค้าและพัฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบวิถีปกติใหม่ หรือ New Normal โดยจัดทำเป็นแพ็คเกจ สำหรับการทำงานที่เป็นอิสระ เป็น 6 ประเภท คือ 1. Homestay / Homelodge / Resort & Hotel 2. CSR Outing 3. Special Interest  4. Luxury 5. Gastronomy และ 6. Staycation

           ปัจจุบันผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้จัดทำแพ็คเกจต่างๆ ไว้ให้เลือกสรรเป็นจำนวนมากถึง 313 แพ็คเกจ

       สำหรับผู้ที่สนใจซื้อแพ็กเกจ และผู้ประกอบการที่ต้องการเสนอขายแพ็คเกจ สามารถเลือกใช้บริการและศึกษารายละเอียดได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564 ที่เว็บไซต์ www.workationthailand.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @workationthailand 


วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2564

ททท. ร่วมกับ สทท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นฯ ไตรมาส 3/2564 พร้อมอัพเดตความพร้อม Thailand Sandbox"

ททท. ร่วมกับ สทท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นฯ ไตรมาส 3/2564 พร้อมอัพเดตความพร้อม Thailand Sandbox"

             การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3/2564 อยู่ที่ระดับ 7 สะท้อนสถานการณ์การท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ไตรมาสที่ 4/2564 อยู่ที่ระดับ 29 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการคาดว่า "สถานการณ์การท่องเที่ยวในไตรมาสหน้าจะดีขึ้นกว่าไตรมาสนี้มาก" แต่สถานการณ์ท่องเที่ยวยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมากที่สุดเมื่อเปรียใจบเทียบระหว่างภูมิภาคผู้ประกอบการ

      คาดว่าในไตรมาส 4/2564  สถานการณ์ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครจะดีกว่าภูมิภาคอื่น ส่วนภาคตะวันตกเป็นภูมิภาคที่มีตัวเลขความเชื่อมั่นต่ำที่สุด  จากการสำรวจสถานภาพการประกอบการในไตรมาสนี้ พบว่าเหลือผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ยังเปิดให้บริการเพียงร้อยละ 51 ลดลงจากไตรมาส 2 ร้อยละ 7 โดยเป็นการปิดกิจการชั่วคราวร้อยละ 44 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และปิดกิจการถาวรร้อยละ 5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 และพบว่าร้อยละ 84 ของสถานประกอบการมีพนักงานเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง  โดยมีแรงงานที่ออกจากระบบไปมากถึง ร้อยละ 71 หรือประมาณ 3,053,000 คน และร้อยละ 54 ของสถานประกอบการระบุว่าไม่มีรายได้เข้ามาเลย โดยสถานบันเทิงร้อยละ 100 สวนสนุกและธีมพาร์คร้อยละ 94  บริษัทนำเที่ยวร้อยละ 93 ธุรกิจนวดและสปาร้อยละ 86 ธุรกิจบริการขนส่งนักท่องเที่ยวร้อยละ 68 ไม่มีรายได้เข้ามาเลย  ในไตรมาสนี้ธุรกิจขนส่งนักท่องเที่ยว ธุรกิจที่พักแรม และร้านขายของฝากของที่ระลึก มีรายได้ดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์” และ “สมุยพลัสโมเดล"

      นอกจากนี้พบว่า ธุรกิจโรงแรม/ที่พัก เปิดให้บริการประมาณร้อยละ 82 โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณร้อยละ 18 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ดีขึ้นกว่าไตรมาส 2

        นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่าโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ที่เปิดมาประมาณ 3 เดือนนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จในเชิงสัญลักษณ์คือ เป็นการประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า "ไทยเราเป็นผู้นำของโลกในด้านการท่องเที่ยว สามารถเป็นต้นแบบในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยตามมาตรการสุขอนามัยที่ดี" ซึ่งต้องขอขอบคุณวิสัยทัศน์ของรัฐบาลสำหรับแผนการเปิดประเทศ 120 วันที่ดำเนินการมาได้ด้วยดี และมีการพบผู้ติดเชื้อในโครงการ Sandbox ต่ำมากๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อมาเจาะลึกในด้านอื่นๆพบว่า เรายังไม่สามารถขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากที่ผ่านมา เงื่อนไขในการเข้าประเทศยังไม่เอื้อกับการเดินทางท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวยังมีความสับสนในเรื่องของเกณฑ์และรูปแบบที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่  โดยได้เสนอทุกพื้นที่ใช้ SOP เดียวกันและให้ใช้ชื่อ “แซนด์บอกซ์” ต่อท้ายเหมือนกันเหมือนกันกับทุกพื้นที่ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้เป็น Signle Message ที่ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์ โดยที่ผ่านมาทาง สทท. ได้ผลักดันให้มีการลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และลดการตรวจโควิด-19 เหลือ 2 ครั้ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากท่านรัฐมนตรีและ ศบค. ลำดับต่อไปจะเป็นการพิจารณาว่าทำอย่างไรให้เกิดความสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น เช่น การปรับกระบวนการของการขอ COE  การนำเทคโนโลยีต่างๆ มาเชื่อมโยงกันให้เป็น Single Platform และที่สำคัญที่สุดคือ การวางแผนแคมเปญแรงๆ เพื่อดึงดูดและกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยในขณะนี้ภาคเอกชนต่างๆ มีความพร้อมมากในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทั้งในด้านการเตรียมผู้ประกอบการให้ได้มาตรฐาน SHA เพื่อความมั่นใจด้านสุขอนามัย การเตรียมบุคลากรที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว การเตรียมแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ ดังนั้นหากภาครัฐมีการปลดล๊อคเงื่อนไขต่างๆ และมีการออกแคมเปญดีๆ ภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน

          นางสมทรง สัจจาภิมุข รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า อินเดียเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก เนื่องจากอินเดียมีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ (Outbound) เฉลี่ยที่ปีละ 10-11% ซึ่งในปี 2562 อินเดียเดินทางเข้ามาประเทศไทยราว 1.96 ล้านคน ซึ่งขยายตัวขึ้นราว 26% และอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีอัตราการใช้จ่ายต่อหัวสูง และเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ เช่น ตลาดเวดดิ้งและฮันนีมูน, เฮลท์แอนด์เวลเนส เป็นต้น และแม้ปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 อินเดียก็ยังเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ยังเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งในปัจจุบันประเทศอินเดียกำลังมีอัตราการติดเชื้อลดลงอย่างมาก และน่าจะมีความพร้อมในการเดินทางในไตรมาส 4 นี้ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศของไทย หากไทยเรามีการวางกลยุทธให้เหมาะสม กลุ่มตลาดอินเดียจะเป็นตลาดที่น่าสนใจและจะทำเงินให้กับประเทศไทยไม่แพ้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนได้

            นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)  ได้กล่าวว่า ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภาคเอกชนจำเป็นจะต้องอาศัยความช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดรายได้ไปกว่า 18 เดือน และต้องปิดกิจการชั่วคราว หรือลดขนาดกิจการลงไปมากกว่า 50% จึงขาดความพร้อมในการกลับมาเปิดกิจการเพื่อรับนักท่องเที่ยวใหม่ โดยจากการสำรวจพบว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีความต้องการในการรับการสนับสนุนจากภาครัฐใน 4 ด้านหลัก คือ  (1 ) 42% ต้องการโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับการกลับมาเปิดกิจการ (Restart Budget )

(2) 30% ต้องการโครงการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวในวงเงิน 10,000 ล้านบาท 

(3) 20% ต้องการโครงการ Copay หรือการให้ภาครัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนพนักงาน 50% เป็นระยะเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่วันเริ่มกลับมาเปิดกิจการ  

และ (4) 8% ต้องการการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภาษี และค่าจดทะเบียนต่างๆ เป็นระยะเวลา 3 เดือนนับจากวันเริ่มกลับมาเปิดกิจการ

   โดยในแต่ละธุรกิจนั้นก็ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐที่ต่างกันไป โดยธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่กว่า 60% ต้องการ Copay ธุรกิจภาคขนส่งกว่า 62% ต้องการกองทุนฟื้นฟูกิจการเนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ ภาคธุรกิจอาหาร 65% ต้องการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อที่จะนำเงินมาลงทุนในการ Restart ธุรกิจและเป็นเงินสำรองหมุนเวียนในกิจการ

          ด้านนายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาด Domestic​ หรือการท่องเที่ยวภายในประเทศ ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการรักษาความสามารถในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการท่องเที่ยว และต้องการมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเร่งด่วน​ เนื่องจากการเปิดประเทศในไตรมาส 4 นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไม่มากนัก หากไม่มีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวภายในประเทศ จำนวนผู้ประกอบการที่ต้องปิดกิจการและเลิกจ้างจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก ดังนั้นแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ทัวร์เที่ยวไทยและเราเที่ยวด้วยกัน ถือว่าออกมาได้ถูกจังหวะ และจะเป็นกุญแจที่สำคัญที่จะทำให้ในไตรมาสที่ 4 ภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ดี                      นอกจากนี้ สทท. ได้ทำงานร่วมกับ ททท. อย่างใกล้ชิด ในการวางแผนระยะยาว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2565 เช่น การออกแคมเปญเที่ยวคนละครึ่ง เป็นต้น

รองผู้ว่า ททท. ฐาปนีย์ แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2021

รองผู้ว่า ททท. ฐาปนีย์ แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2021

        นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2021     

     เกือบ 2 ปี ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายๆ ท่านต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องอดทนกับวิกฤตการแพร่ระบาดของ covid-19 แต่ทุกท่านก็ยังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐานได้อย่างดียิ่ง ขอเป็นกำลังใจให้ และ ขอชื่นชมกับผู้ที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2021 ประจำปีนี้ทุกท่านค่ะ

     สำหรับผู้ที่พลาดรางวัล ททท. จะเป็น พี่เลี้ยงผลักดันท่านให้เข้าสู่มาตรฐานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ในครั้งหน้าอย่างแน่นอน 

#ThailandTourismAwards2021

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต


            มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วยนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค  ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำพริกสำเร็จรูป และเจลแอลกอฮอล์ ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลตาลเดียว ตำบลวัดป่า ตำบลสักหลง และตำบลปากดก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 500 ชุด  พร้อมมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 1 รายๆ ละ 20,000 บาท  รวมมูลค่าทั้งสิ้น 195,000 บาท  (หนึ่งแสนเก้าหมื่นห้าพันบาทถ้วน) โดยมี นายชาครินทร์ อินอิ่มวรปราชญ์ นายอำเภอหล่มสัก ร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายธีระพันธุ์ ศรีวัฒนกุล รองนายกสมาคมกกไทร และคณะกรรมการ เป็นผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่และร่วมในพิธี ณ บริเวณสมาคมกกไทร (พ่งไล้ยี่จับเซียวเกาะ)  อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564


             และในวันเดียวกันนี้ ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย  นายสมบูลย์ ขวัญอ่วม หัวหน้าแผนกบรรเทาสาธารณภัย นำทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมรถกู้ชีพ เรือท้องแบน อุปกรณ์การช่วยเหลือ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รุดลงพื้นที่อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี เพื่อเข้าอพยพผู้ประสบภัย เคลื่อนย้ายผู้ป่วย และแจกจ่ายอาหารปรุงสุก พร้อมน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป


           เมื่อเกิดอุทกภัย  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือเบื้องต้น  หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์   จะฟื้นฟูหลังน้ำลด  โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418  ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์


ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418


ผู้ว่าฯ ททท. แสดงความยินดีพร้อมมอบรางวัลแก่ผู้โชคดีโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 มูลค่ารวมกว่า 2,000,000 บาท

ผู้ว่าฯ ททท. แสดงความยินดีพร้อมมอบรางวัลแก่ผู้โชคดีโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 มูลค่ารวมกว่า 2,000,000 บาท

    นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้โชคดีโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. ร่วมงานด้วย ณ บริเวณหน้าอาคาร ททท. เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564

       นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021  ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม - 15 กันยายน 2564 โดยมีพันธมิตรหลัก ประกอบด้วย เครือ Asset World, บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล, FN outlet, King Power, MBK, สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์,    กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์, The Mall Group, Terminal 21, Air Asia, Bangkok Airways, Lion Air, Nok Air, Thai Smile, Thai Vietjet Air, Siam Global House, Major, MAYA, OR, JD Centra, Lazada, M Online, Shopee, UTU, JCB, UnionPay International (Thailand), VISA, Nissan และผู้ประกอบการทั่วประเทศ    รวมกว่า 10,000 ราย ร่วมมอบสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นลดราคาสูงสุด 80% เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว  ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่พำนักในประเทศไทย (EXPAT) รวมทั้ง ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็น Shopping Destination เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 เดือน มีผู้ใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีจำนวนสิทธิ์ในการชิงโชคลุ้นรับรางวัลใหญ่มากกว่า 5,000,000 สิทธิ์ (ทุกการใช้จ่าย 2,000 บาท ได้รับ 1 สิทธิ์) และมีรายได้จากโครงการรวมประมาณกว่า 10,000,000,000 บาท 

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ททท. ได้กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 และขอขอบคุณผู้ร่วมกิจกรรมทุกท่าน รวมทั้ง พันธมิตรร่วมโครงการที่มอบสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากมาย และสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึงการสนับสนุนของรางวัลต่างๆ  เชื่อว่าความสำเร็จของโครงการในวันนี้เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ททท. จะขอเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศและสร้างบรรยากาศเชิงบวก ให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด

           และในวันนี้ ททท. ได้จัดพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้โชคดี จำนวน  293 รางวัล รวมมูลค่ารวมกว่า 2,000,000 บาท โดยมีรายชื่อผู้โชคดีได้รับรางวัลที่ 1-4 ดังนี้   

รางวัลที่ 1 รถยนต์ All-New Nissan Kicks E-Power รุ่น V จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 1,049,000 บาท ได้แก่ Ms. SHU KIAT AMY WONG

รางวัลที่ 2 iPhone 12 Pro Max 256 GB จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 43,900 บาท ได้แก่ นายพินิจ อินวกูล

รางวัลที่ 3 บัตรห้องพักโรงแรม Centara Grand Beach Resort Phuket ห้อง Deluxe 2 คืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 30,800 บาท ได้แก่ นายพงศ์ศิริ วงศ์สวัสดิ์

รางวัลที่ 4 ทองคำรูปพรรณ หนัก 1 บาท จำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 27,250 บาท รวมมูลค่า 81,750 บาท ได้แก่ นายวัชรพงศ์ โรจนศักดิ์เดชาภูมิ, นายธนากร แซ่ว่าง และนายอภิสิทธิ์ ศรีสว่าง

     ทั้งนี้ ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลอื่น ๆ และรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ www.amazingthailandgrandsale.com หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานกลยุทธ์ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กองวางแผนลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ททท. โทรศัพท์ 0 2250 5500 ต่อ 2940-2945 หรือ Facebook Page: Amazing Thailand Grand Sale 2021 และ    Line Official : @thailandgrandsale 

 

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2564

ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดลงพื้นที่จังหวัดลพบุรี! เร่งอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี

ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดลงพื้นที่จังหวัดลพบุรี! เร่งอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี

            จากอิทธิพลของร่องมรสุมและพายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่"  ทำให้จังหวัดลพบุรีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดลพบุรีส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลากจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ไหลลงสู่พื้นที่ต่ำ และลงในอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร ในพื้นที่ตำบลกุดตาเพชร อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ระดับเอ่อล้นสปริงเวย์ของอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชรไหลลงพื้นที่ลุ่ม ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่  และในช่วงค่ำที่ผ่านมามวลน้ำยังได้ทะลักเข้าท่วมตำบลลำสนธิ ตำบลหนองรี อำเภอลำสนธิ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากนั้น


            มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มอบหมายให้ทีมบรรเทาสาธารณภัย นำโดย  นายสมบูลย์ ขวัญอ่วม หัวหน้าแผนกบรรเทาสาธารณภัย นำทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมรถกู้ชีพ เรือท้องแบน อุปกรณ์การช่วยเหลือ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รุดลงพื้นที่อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี เข้าพบนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เพื่อวางแผนการช่วยเหลือ และในขณะนี้มูลนิธิฯ อยู่ระหว่างการเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยในทันที เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564

           ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่างๆ ต่อไป

ติดตามข่าวสารกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต 

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2564

สารวัตรแรมโบ้ร่วมประชุม "มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า" ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมถวายกระชายขาวแรมโบ้ เฮิร์บ ให้ท่านสมเด็จพระมหาธีราจารย์

สารวัตรแรมโบ้ร่วมประชุม "มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า" ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมถวายกระชายขาวแรมโบ้ เฮิร์บ ให้ท่านสมเด็จพระมหาธีราจารย์




               พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฏาเดช (สารวัตรแรมโบ้) เป้นตัวแทนในการเข้าประชุมสามัญประจำปี 2564 ของ "มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า" ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ ห้องประชุม วพต. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม  (วัดโพธิ์) เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564 




       พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฏาเดช (สารวัตรแรมโบ้) ยังได้ถวายสมุนไพรกระชายขาวของบริษัท แรมโบ้ เฮิร์บ จำกัด ให้กับพระเถระผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมประชุม โดยมีพระเดชพระคุณเจ้า ท่านสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (อดีตเจ้าอาวาสวัดยานนาวา) เป็นผู้รับมอบ และยังได้มอบให้กับคณะกรรมการมูลนิธิฯ ด้วย เพื่อไว้สร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันไวรัส covid-19 

เน้นจัดงานวางมาตรการเข้มสูงสุด Thailand SHA SHA SHA : The Memory @ Phuket Krabi PhangNga ตอบโจทย์ความสุขแต่ก็คำนึงถึงการปิดทุกจุดเสี่ยงของการแพร่ระบาด

กิจกรรมต้นแบบยุค New Normal เริ่มแล้ว ททท. เน้นจัดงานวางมาตรการเข้มสูงสุด Thailand SHA SHA SHA : The Memory @ Phuket Krabi PhangNga ตอบโจทย์ความสุขแต่ก็คำนึงถึงการปิดทุกจุดเสี่ยงของการแพร่ระบาด

               การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตอบโจทย์ฤดูท่องเที่ยว เริ่มขยับด้วยการจัดกิจกรรมที่ตอบโจทย์ประสบการณ์อันทรงคุณค่าน่าประทับใจ (Thailand Festival Experience) ภายใต้มาตรฐานและมาตรการเข้มข้นสูงสุด เพื่อเป็นต้นแบบกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเคร่งครัดด้านสาธารณสุขซึ่งแน่นอนจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมจะได้ทั้งความสุขและปราศจากความเสี่ยง

        ทั้งนี้ ททท. ก็ขอสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะผู้ที่ทำตามมาตรการในการในการเข้าพื้นที่การจัดกิจกรรมสามรถเข้าร่วมได้เท่านั้น

       นอกจากนี้ มีการประเมินภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่โดยหน่วยงานสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด อนึ่ง ททท. พร้อมปรับกิจกรรมตามคำแนะนำของสาธารณสุข เพื่อปิดทุกจุดเสี่ยง แต่ยังคงตอบโจทย์ความสุขและความมั่นใจในการเข้าร่วมงานสูงสุด

      The Memory @ Phuket จะเน้นรูปแบบงานแสงสี Lightup illumination กิจกรรมทางน้ำ sport Tourism ส่วน The Memory @ Krabi, Phang-Nga จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสัมผัส ได้แก่ Landmark ถ่ายภาพภายในงาน บูธกิจกรรม DIY กิจกรรมการ “Live” สดส่งเสริมการขายจาก KOLs ที่จะมาประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นพิเศษภายในงานนี้กับสินค้าของที่ระลึกท้องถิ่นของชุมชน สินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำ การแสดงจากศิลปินในท้องถิ่น และศิลปินที่มีชื่อ การแสดงโชว์ท้องถิ่น ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างสีสันในทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน

       แนวคิดการจัดกิจกรรม Thailand SHA SHA SHA : The Memory @ Phuket Krabi Phang-Nga เป็นไปในรูปแบบ New Normal ที่จะดำเนินการภายใต้มาตรการการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรฐาน SHA อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านได้เกิดความมั่นใจในการมาร่วมงาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในประเทศ และกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (Expat) ให้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยตามโครงการ Phuket Sandbox สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในพื้นที่นำร่องรูปแบบ 7+7  (7+7 Phuket Extension) เป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวและการดำเนินงานด้านสาธารณสุขของประเทศ รวมถึงเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทางหนึ่ง 

      สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน ต้อง
ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการเข้าร่วมงานเป็นไปตามมาตรฐาน SHA อย่างเคร่งครัด    

     สามารถจองคิวเข้าร่วมงานล่วงหน้าผ่าน QR Code ของกิจกรรมแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อมาถึงหน้างาน ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข และหลักฐานการตรวจ RT-PCR หรือ ATK ที่ออกใบรับรองจากสถาบันไม่เกิน 72 ชั่วโมง  หรือถ้าไม่มีผล คนที่จะเข้างานต้องมีการตรวจ ATK หน้างานก่อนเข้า พร้อมแสดงบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนว่าจองคิวมาแล้ว และลงทะเบียนเข้างานด้วยแอปพลิเคชั่นไทยชนะ รักษามาตรฐาน DMHTTA และ Covid-Free Setting ภายในงานจะกำหนดผู้อยู่ในงานไม่เกิน 300 คน (ความแออัดไม่ต่ำกว่า 1 คน ต่อ 10 ตารางเมตร) 

     ผู้ที่สนในสามารถติดตามหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : THAILAND SHA SHA SHA The Memory  หรือ โทร 1672 เพื่อนร่วมทาง #ThalandSHASHASHA

สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่ ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่  ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ชมการแสดงงิ้ว...