วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

"สารวัตรแรมโบ้" เปิดร้านอาหาร "เฮือนอิงภู แอนด์ คาเฟ่ " ใช้ชีวิตพอเพียงหลังเกษียณวงการสีกากี

"สารวัตรแรมโบ้" เปิดร้านอาหาร "เฮือนอิงภู แอนด์ คาเฟ่ "

ใช้ชีวิตพอเพียงหลังเกษียณวงการสีกากี

และยังรับใช้สังคม เป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศไทย



      ห่างหายไปนานสำหรับ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" จนมาเป็นข่าวการทวงแผ่นดินคืนจากเขมรร่วมกับนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้หนีภัยเขมรแดง มีคนไทยในพื้นที่ต้องเสียพื้นที่นาให้เขมรเหล่านี้เข้ามายึดครองเป็นของตนเองและพวกพ้องที่อพยพกันเข้ามาเกือบ 40 ปีมาแล้ว มันนานจนเขมรเขาขี้โกงคิดว่เป็นแผ่นดินของพวกมัน แล้วมันถึงเวลาแล้วที่จะเอาพื้นแผ่นดินของไทยกลับคืนมา


      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" หลายคนคงมีภาพจำกับนายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ได้ดี เพราะท่านเป็นอดีตตำรวจกองปราบขาลุุยผู้โด่งดังในอดีต กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ที่ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ พร้อมชน ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เน้น "ความถูกต้อง ยุติธรรม" เป็นหลักการ 
      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช มักลุยบุกจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีต่าง ๆมากมายแบบไม่สนหน้าหน้าอินทร์หน้าพรหม  บางครั้งก็บุกเดี่ยวหรือมีลูกน้องคู่ใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า “สารวัตรแรมโบ้” เขาคือสายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง  มีต้นแบบจากจ่าตุ้มผู้เป็นปู่ และหมวดสวัสดิ์ ผู้เป็นพ่อที่เป็นตำรวจสันติบาล เป็นนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นเดียวกับ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ "ผู้การแต้ม"  เจ้าของฉายา "มือปราบหูดำ"


     ส่วนเส้นทางรับราชการ "สารวัตรแรมโบ้" อยู่กองปราบ เกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ผู้การบุญชู วังกานนท์  ผู้การรุ่งโรจน์ ยมกุล  ผู้การรังสิต ญาโณทัย  ผู้การคำนึง ธรรมเกษม อยู่แผนก 3 กอง 2,  คอมมานโด  เคยเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล หน่วยสยบริปูสะท้านคนแรกของกองปราบ ติดยศ พ.ต.ต. ขึ้นสารวัตรสอบสวนที่พยุหะคีรี กลับมาอยู่นครบาลเป็น สว.ป.สน.บางกอกน้อย สไลด์ เป็น สว.ปปป. เดือนหนึ่ง  แล้วไปเป็น สว.อาวุธปืน กองทะเบียน กรมตำรวจ  ทำเรื่องรื้อการทุจริตทำใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน หลังจากนั้น เป็น รอง ผกก.อก.กองบินตำรวจ, รอง ผกก. สรรพาวุธ, รอง ผกก.อก. บช.ปส. เป็นได้ 2 เดือนกว่า ก็มาเป็น รอง ผกก.ปพ.ภาค 3 อยู่ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ภาค 3 เป็น รอง ผกก. นานมาก น่าจะ 15-16 ปี แล้วก็เป็น ผกก.สืบสวนจังหวัดอำนาจเจริญ 4 ปีก่อนจะเกษียณอายุปี 2561”


     "สารวัตรแรโบ้" อยู่มาหลายสังกัด ทั้งกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธร ทำให้มีผลงานมากมายเป็นที่ประจักษ์ แต่เจ้านายไม่ค่อยรักมักมองข้ามหัวเสมอ ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นในความดีที่เขาทำ แต่สายเลือดตำรวจในตัวของสารวัตรแรมโบ้ยังเข้มข้นไม่มีวันจาง แต่ก็มีความภูมิใจกับผลงานในหลายคดี อาทิ บุกจับ 3 ผู้ก่อการร้ายสากลที่วางระเบิดสถานทูตกลางกรุง พร้อมของกลางเป็นระเบิด TNT, จับกลุ่มเขมรแดงเป็นขบวนการค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ตาพระยา พร้อมอาวุธปืนกว่า 100 กระบอก งานนี้มีการแย่งชิงเงินล่อซื้อ และต่อสู้ดวลปืนกันสนั่นป่าชายแดนไทย – เขมร ทำให้มีทั้งจับเป็นและจับตายในคดีดังกล่าว,


คดียิงสาวงามเทพีหาบเงินหาบทองตาย พร้อมพี่ชายที่บาดเจ็บสาหัส คดีนี้ผ่านมาเกือบ 20 ปี ใกล้หมดอายุความ เจอหลานคนตายมาขอให้ช่วยคลี่คลายคดี สุดท้ายจับคนร้ายได้ก่อนคดีหมดอายุความไม่กี่วัน, คดีเรียกค่าไถ่สังหารเสี่ย 100 ล้านและเลขาฯ แล้วโยนศพทิ้งเหวสุวัต  คนร้ายหนีลอยนวลไปได้นับ 10 ปี จนกระทั่งมาชุบตัวเป็นช่างผมดังในกรุงเทพฯ พอสารวัตรแรมโบ้สืบรู้ ก็ส่งลูกน้องเข้าไปทำทีเป็นลูกค้ามาตัดผมเพื่อหาข่าว จนมั่นใจว่าเป็นคนร้ายที่หนีคดีมายาวนาน จึงบุกรวบคากรรไกรในร้านตัดผม, คดีจ้างวานฆ่าลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เหตุเกิดจากขัดแย้งผลประโยชน์ในวัดบ้านไร่ คดีนี้คนร้ายไม่ใช่อื่นไกลเป็นคนสนิทใกล้ชิดหลวงพ่อนั่นเอง, คดีคนไหหลำที่ก่อคดีมาอย่างโชกโชน ทางการจีนขอให้ตำรวจไทยช่วยจับกุมและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และยังมีคดีจับคนร้ายปล้นธนาคารกว่า 20 แห่ง  ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างผลงานเท่านั้น


     สำหรับคดีที่สารวัตรแรมโบ้ประทับใจที่สุดและไม่มีวันลืมก็คือ การจับคนร้ายตัวจริงได้ในคดีจับแพะฆ่าสาวอะโกโก้ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ที่ตำรวจท้องที่จับผิดตัว น่าจะเป็นการจับแพะคดีแรกๆ ในประเทศไทย แต่เขาก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตัวจริงมาลงโทษได้ทำให้ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นมลทิน

     สารวัตรบอกถึงวิธีการคลี่คลายคดีต่างๆ ว่า นอกจากจะต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณ ความรู้ความสามารถ และทักษะในการสืบสวนสอบสวนแล้ว เรื่องไสยศาสตร์ก็มีส่วนช่วยในการปิดคดีได้ไม่น้อย เขาจะเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้วหาเศษดิน เส้นผม หรือรอยเลือด จุดธูปตั้งจิตอธิษฐานถึงดวงวิญญาณที่รอทวงความยุติธรรมว่า "ให้ตามจับคนร้ายมาชดใช้กรรมให้ได้" เพื่อวิญญาณเหล่านั้นจะได้ไปสู่สุคติ ต่อมาไม่ช้าไม่นานก็จะมีงานเข้าและสามารถปิดคดีได้ในเร็ววัน


     ตลอดระยะเวลาหลายปี สมัยที่ทำงานอยู่กองปราบฯ เขามีลูกน้องคู่ใจที่สารวัตรแรมโบ้ยกย่องให้เป็นอาจารย์ เนื่องจากเป็นตำรวจชั้นประทวนฝีมือดีและมีชื่อชั้นในการสืบสวนปราบปราม จนเป็นตำนานหนึ่งของกองปราบ เพราะช่วยทำงานคลี่คลายคดีให้กองปราบมาเยอะ เขาคนนั้นคือ ร.ต.ต.กฤตสัณห์ จันทร์กระจ่าง หรือ "ดาบจ๊อด กองปราบ" อดีตนายก อบต.บ้านอิฐ จังหวัดอ่างทอง ที่ถูกคนร้ายยิงคาศาลาวัด ระหว่างมาร่วมงานศพสมาชิก อบต. จนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายวัยชรามารับโทษได้ เนื่องจากนายประทุม อยู่ประเสริฐ คนร้ายที่มีหมายจับเพียงคนเดียวเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว และข้อสำคัญ ดาบจ๊อดและพวก 3 ศพ ที่เสียชีวิตวันนั้น ในศพทั้ง 3 ศพมีกระสุนคนละขนาด ในข้อเท็จจริงคดีดาบจ๊อด ยังมีคนร้ายที่ร่วมกันกระทำผิดอีกหลายคนที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้หมด เป็นทีมงานสังหารทีมใหญ่ ทำงานกันหลายคน

     นอกจากเรื่องดาบจ๊อดกองปราบแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคดีคือ คดีฆ่าโหด พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รอง ผบก.น.9 แม้จะผ่านมาร่วม 20 ปีแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจับตัวกลุ่มคนร้ายได้ เขาบอกว่าคดีนี้มันเป็นการหยามเกียรติตำรวจจนเกินไป ในฐานะที่เขาก็เป็นตำรวจคนหนึ่งเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดมากและอยากให้ลากคอคนร้ายมารับโทษให้ได้
      ทั้ง 2 คดี ถ้าเกิดมีพลเมืองดีท่านใดสามารถนำชี้จับตัวคนร้ายได้หรือมาเป็นพยานสำคัญนำไปสู่การออกหมายจับเพื่อจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ในคดี ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ สารวัตรแรมโบ้ยินดีมอบรางวัลนำจับคดีละ 100,000 บาท แต่มีข้อแม้ต้องเอาข้อมูลของคนร้ายในคดีนี้มามอบให้ที่ผมเท่านั้น และให้ผมสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ตามกฏหมาย  โดยมีผมเป็นผู้จับกุมร่วมกับตำรวจในราชการอาจจะเป็นตำรวจชั้นประทวนใดคนหนึ่งก็ได้ ทั้ง 2 คดีสำคัญๆ น่าจะใกล้หมดอายุความไม่เกินปี พ.ศ 2571-2572  ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศทุกนายให้ช่วยกันทุ่มเทสรรพกำลังความรู้ความสามารถให้จับกุมคนร้ายสำคัญให้ได้ทั้ง 2 คดีพร้อมกัน ก่อนที่จะขาดอายุความ


     "สารวัตรแรมโบ้" ผู้มีสีกากีในสายเลือด ยังแสดงความห่วงใยถึงตำรวจรุ่นหลัง โดยฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการพิจารณาแต่งตั้งว่า "ควรยึดระบบอาวุโสมากกว่า 50%" เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงานจริง และ ก.ตร. เอง ก็ควรทำให้ได้อย่างที่พูด ไม่ใช่ดีแต่ขายฝันในช่วงหาเสียง
     “สารวัตรแรมโบ้” ยังเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพว่า ที่ยังดูแข็งแรงไม่ทรุดโทรมไปตามวัยเพราะไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ และยังออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ  เลือกทานอาหารที่เป็นยา  ทานอาหารที่มีประโยชน์  สวดมนต์แผ่เมตตาทุกวัน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้มีจิตใจที่แจ่มใสอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง


      ปัจจุบัน พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่ "สารวัตรแรมโบ้" มือปราบสีกากี แม้จะเกษียณมาตั้งแต่ปี 2561 แต่เขายังนึกถึงวงการสีกากีอยู่เสมอ ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ มีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ควบคู่กับ ความรู้และคุณธรรม ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิต และการบริหารจัดการธุรกิจ ตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกับนางฐิติณ์ชญา (ภรรยา) ทั้งซื้อขายที่ดิน ทำโรงงานผลิตอาหารเสริม สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โรงงานผลิตน้ำดื่มกลิ่นใบเตย โรงงานผลิตน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ และยังเป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศ ไทยด้วย


      รวมทั้ง ร้านเฮือนอิงภู เป็นร้านอาหารคุณภาพ มีมาตราฐาน ด้วยเมนูที่หลากหลาย แต่ที่สำคัญคืออาหารสะอาด ถูกหลักอนามัย และอร่อย รับรองท่านทานแล้วจะต้องติดใจ ทานอาหารอร่อย และเป็นกันเองอย่างอบอุ่น ในบรรยากาศเปิดโล่ง สบายๆ ชิวๆ แถมที่นี่ก็ยังมีคาเฟ่ที่สวยงาม ไว้บริการกาแฟและเครื่องดื่มอีกด้วย มาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน         
     ร้านเฮือนอิงภู" เลขที่ 494 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปมาก็สะดวกสบาย "ร้านเฮือนอิงภู" ลงจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ M6 ก็เจอเลย อยู่ทางซ้ายมือ 








ใช้ชีวิตพอเพียงหลังเกษียณวงการสีกากี

เปิดร้านอาหาร "เฮือนอิงภู" แอนด์คาเฟ่
และยังรับใช้สังคม เป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศไทย


      ห่างหายไปนานสำหรับ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" จนมาเป็นข่าวการทวงแผ่นดินคืนจากเขมรร่วมกับนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้หนีภัยเขมรแดง มีคนไทยในพื้นที่ต้องเสียพื้นที่นาให้เขมรเหล่านี้เข้ามายึดครองเป็นของตนเองและพวกพ้องที่อพยพกันเข้ามาเกือบ 40 ปีมาแล้ว มันนานจนเขมรเขาขี้โกงคิดว่เป็นแผ่นดินของพวกมัน แล้วมันถึงเวลาแล้วที่จะเอาพื้นแผ่นดินของไทยกลับคืนมา


      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" หลายคนคงมีภาพจำกับนายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ได้ดี เพราะท่านเป็นอดีตตำรวจกองปราบขาลุุยผู้โด่งดังในอดีต กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ที่ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ พร้อมชน ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เน้น "ความถูกต้อง ยุติธรรม" เป็นหลักการ 
      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช มักลุยบุกจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีต่าง ๆมากมายแบบไม่สนหน้าหน้าอินทร์หน้าพรหม  บางครั้งก็บุกเดี่ยวหรือมีลูกน้องคู่ใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า “สารวัตรแรมโบ้” เขาคือสายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง  มีต้นแบบจากจ่าตุ้มผู้เป็นปู่ และหมวดสวัสดิ์ ผู้เป็นพ่อที่เป็นตำรวจสันติบาล เป็นนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นเดียวกับ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ "ผู้การแต้ม"  เจ้าของฉายา "มือปราบหูดำ"


     ส่วนเส้นทางรับราชการ "สารวัตรแรมโบ้" อยู่กองปราบ เกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ผู้การบุญชู วังกานนท์  ผู้การรุ่งโรจน์ ยมกุล  ผู้การรังสิต ญาโณทัย  ผู้การคำนึง ธรรมเกษม อยู่แผนก 3 กอง 2,  คอมมานโด  เคยเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล หน่วยสยบริปูสะท้านคนแรกของกองปราบ ติดยศ พ.ต.ต. ขึ้นสารวัตรสอบสวนที่พยุหะคีรี กลับมาอยู่นครบาลเป็น สว.ป.สน.บางกอกน้อย สไลด์ เป็น สว.ปปป. เดือนหนึ่ง  แล้วไปเป็น สว.อาวุธปืน กองทะเบียน กรมตำรวจ  ทำเรื่องรื้อการทุจริตทำใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน หลังจากนั้น เป็น รอง ผกก.อก.กองบินตำรวจ, รอง ผกก. สรรพาวุธ, รอง ผกก.อก. บช.ปส. เป็นได้ 2 เดือนกว่า ก็มาเป็น รอง ผกก.ปพ.ภาค 3 อยู่ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ภาค 3 เป็น รอง ผกก. นานมาก น่าจะ 15-16 ปี แล้วก็เป็น ผกก.สืบสวนจังหวัดอำนาจเจริญ 4 ปีก่อนจะเกษียณอายุปี 2561”


     "สารวัตรแรโบ้" อยู่มาหลายสังกัด ทั้งกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธร ทำให้มีผลงานมากมายเป็นที่ประจักษ์ แต่เจ้านายไม่ค่อยรักมักมองข้ามหัวเสมอ ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นในความดีที่เขาทำ แต่สายเลือดตำรวจในตัวของสารวัตรแรมโบ้ยังเข้มข้นไม่มีวันจาง แต่ก็มีความภูมิใจกับผลงานในหลายคดี อาทิ บุกจับ 3 ผู้ก่อการร้ายสากลที่วางระเบิดสถานทูตกลางกรุง พร้อมของกลางเป็นระเบิด TNT, จับกลุ่มเขมรแดงเป็นขบวนการค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ตาพระยา พร้อมอาวุธปืนกว่า 100 กระบอก งานนี้มีการแย่งชิงเงินล่อซื้อ และต่อสู้ดวลปืนกันสนั่นป่าชายแดนไทย – เขมร ทำให้มีทั้งจับเป็นและจับตายในคดีดังกล่าว,


คดียิงสาวงามเทพีหาบเงินหาบทองตาย พร้อมพี่ชายที่บาดเจ็บสาหัส คดีนี้ผ่านมาเกือบ 20 ปี ใกล้หมดอายุความ เจอหลานคนตายมาขอให้ช่วยคลี่คลายคดี สุดท้ายจับคนร้ายได้ก่อนคดีหมดอายุความไม่กี่วัน, คดีเรียกค่าไถ่สังหารเสี่ย 100 ล้านและเลขาฯ แล้วโยนศพทิ้งเหวสุวัต  คนร้ายหนีลอยนวลไปได้นับ 10 ปี จนกระทั่งมาชุบตัวเป็นช่างผมดังในกรุงเทพฯ พอสารวัตรแรมโบ้สืบรู้ ก็ส่งลูกน้องเข้าไปทำทีเป็นลูกค้ามาตัดผมเพื่อหาข่าว จนมั่นใจว่าเป็นคนร้ายที่หนีคดีมายาวนาน จึงบุกรวบคากรรไกรในร้านตัดผม, คดีจ้างวานฆ่าลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เหตุเกิดจากขัดแย้งผลประโยชน์ในวัดบ้านไร่ คดีนี้คนร้ายไม่ใช่อื่นไกลเป็นคนสนิทใกล้ชิดหลวงพ่อนั่นเอง, คดีคนไหหลำที่ก่อคดีมาอย่างโชกโชน ทางการจีนขอให้ตำรวจไทยช่วยจับกุมและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และยังมีคดีจับคนร้ายปล้นธนาคารกว่า 20 แห่ง  ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างผลงานเท่านั้น


     สำหรับคดีที่สารวัตรแรมโบ้ประทับใจที่สุดและไม่มีวันลืมก็คือ การจับคนร้ายตัวจริงได้ในคดีจับแพะฆ่าสาวอะโกโก้ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ที่ตำรวจท้องที่จับผิดตัว น่าจะเป็นการจับแพะคดีแรกๆ ในประเทศไทย แต่เขาก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตัวจริงมาลงโทษได้ทำให้ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นมลทิน

     สารวัตรบอกถึงวิธีการคลี่คลายคดีต่างๆ ว่า นอกจากจะต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณ ความรู้ความสามารถ และทักษะในการสืบสวนสอบสวนแล้ว เรื่องไสยศาสตร์ก็มีส่วนช่วยในการปิดคดีได้ไม่น้อย เขาจะเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้วหาเศษดิน เส้นผม หรือรอยเลือด จุดธูปตั้งจิตอธิษฐานถึงดวงวิญญาณที่รอทวงความยุติธรรมว่า "ให้ตามจับคนร้ายมาชดใช้กรรมให้ได้" เพื่อวิญญาณเหล่านั้นจะได้ไปสู่สุคติ ต่อมาไม่ช้าไม่นานก็จะมีงานเข้าและสามารถปิดคดีได้ในเร็ววัน


     ตลอดระยะเวลาหลายปี สมัยที่ทำงานอยู่กองปราบฯ เขามีลูกน้องคู่ใจที่สารวัตรแรมโบ้ยกย่องให้เป็นอาจารย์ เนื่องจากเป็นตำรวจชั้นประทวนฝีมือดีและมีชื่อชั้นในการสืบสวนปราบปราม จนเป็นตำนานหนึ่งของกองปราบ เพราะช่วยทำงานคลี่คลายคดีให้กองปราบมาเยอะ เขาคนนั้นคือ ร.ต.ต.กฤตสัณห์ จันทร์กระจ่าง หรือ "ดาบจ๊อด กองปราบ" อดีตนายก อบต.บ้านอิฐ จังหวัดอ่างทอง ที่ถูกคนร้ายยิงคาศาลาวัด ระหว่างมาร่วมงานศพสมาชิก อบต. จนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายวัยชรามารับโทษได้ เนื่องจากนายประทุม อยู่ประเสริฐ คนร้ายที่มีหมายจับเพียงคนเดียวเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว และข้อสำคัญ ดาบจ๊อดและพวก 3 ศพ ที่เสียชีวิตวันนั้น ในศพทั้ง 3 ศพมีกระสุนคนละขนาด ในข้อเท็จจริงคดีดาบจ๊อด ยังมีคนร้ายที่ร่วมกันกระทำผิดอีกหลายคนที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้หมด เป็นทีมงานสังหารทีมใหญ่ ทำงานกันหลายคน

     นอกจากเรื่องดาบจ๊อดกองปราบแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคดีคือ คดีฆ่าโหด พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รอง ผบก.น.9 แม้จะผ่านมาร่วม 20 ปีแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจับตัวกลุ่มคนร้ายได้ เขาบอกว่าคดีนี้มันเป็นการหยามเกียรติตำรวจจนเกินไป ในฐานะที่เขาก็เป็นตำรวจคนหนึ่งเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดมากและอยากให้ลากคอคนร้ายมารับโทษให้ได้
      ทั้ง 2 คดี ถ้าเกิดมีพลเมืองดีท่านใดสามารถนำชี้จับตัวคนร้ายได้หรือมาเป็นพยานสำคัญนำไปสู่การออกหมายจับเพื่อจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ในคดี ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ สารวัตรแรมโบ้ยินดีมอบรางวัลนำจับคดีละ 100,000 บาท แต่มีข้อแม้ต้องเอาข้อมูลของคนร้ายในคดีนี้มามอบให้ที่ผมเท่านั้น และให้ผมสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ตามกฏหมาย  โดยมีผมเป็นผู้จับกุมร่วมกับตำรวจในราชการอาจจะเป็นตำรวจชั้นประทวนใดคนหนึ่งก็ได้ ทั้ง 2 คดีสำคัญๆ น่าจะใกล้หมดอายุความไม่เกินปี พ.ศ 2571-2572  ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศทุกนายให้ช่วยกันทุ่มเทสรรพกำลังความรู้ความสามารถให้จับกุมคนร้ายสำคัญให้ได้ทั้ง 2 คดีพร้อมกัน ก่อนที่จะขาดอายุความ


     "สารวัตรแรมโบ้" ผู้มีสีกากีในสายเลือด ยังแสดงความห่วงใยถึงตำรวจรุ่นหลัง โดยฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการพิจารณาแต่งตั้งว่า "ควรยึดระบบอาวุโสมากกว่า 50%" เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงานจริง และ ก.ตร. เอง ก็ควรทำให้ได้อย่างที่พูด ไม่ใช่ดีแต่ขายฝันในช่วงหาเสียง
     “สารวัตรแรมโบ้” ยังเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพว่า ที่ยังดูแข็งแรงไม่ทรุดโทรมไปตามวัยเพราะไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ และยังออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ  เลือกทานอาหารที่เป็นยา  ทานอาหารที่มีประโยชน์  สวดมนต์แผ่เมตตาทุกวัน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้มีจิตใจที่แจ่มใสอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง


      ปัจจุบัน พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่ "สารวัตรแรมโบ้" มือปราบสีกากี แม้จะเกษียณมาตั้งแต่ปี 2561 แต่เขายังนึกถึงวงการสีกากีอยู่เสมอ ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ มีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ควบคู่กับ ความรู้และคุณธรรม ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิต และการบริหารจัดการธุรกิจ ตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกับนางฐิติณ์ชญา (ภรรยา) ทั้งซื้อขายที่ดิน ทำโรงงานผลิตอาหารเสริม สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โรงงานผลิตน้ำดื่มกลิ่นใบเตย โรงงานผลิตน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ และยังเป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศ ไทยด้วย


      รวมทั้ง ร้านเฮือนอิงภู เป็นร้านอาหารคุณภาพ มีมาตราฐาน ด้วยเมนูที่หลากหลาย แต่ที่สำคัญคืออาหารสะอาด ถูกหลักอนามัย และอร่อย รับรองท่านทานแล้วจะต้องติดใจ ทานอาหารอร่อย และเป็นกันเองอย่างอบอุ่น ในบรรยากาศเปิดโล่ง สบายๆ ชิวๆ แถมที่นี่ก็ยังมีคาเฟ่ที่สวยงาม ไว้บริการกาแฟและเครื่องดื่มอีกด้วย มาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน         
     ร้านเฮือนอิงภู" เลขที่ 494 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปมาก็สะดวกสบาย "ร้านเฮือนอิงภู" ลงจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ M6 ก็เจอเลย อยู่ทางซ้ายมือ 










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ชวนชิม สุดยอด “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ชวนชิม  สุดยอด “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก       กลับมาอีกครั้งกับสุดยอดรสชาติดีที่สุดของ “ปูขน” ตั้งแต่วันนี้จนถึ...