วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568

คิกออฟการเฉลิมฉลอง 10 ปี กรอบการค้า ชิลี-ไทย จัดใหญ่ Chile-ASEAN Business Summit เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ

คิกออฟการเฉลิมฉลอง 10 ปี กรอบการค้า ชิลี-ไทย

จัดใหญ่ Chile-ASEAN Business Summit เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ  

นำนักธุรกิจพบปะจับคู่กระตุ้นการค้า-การลงทุน

     กระทรวงการต่างประเทศชิลี โดย ProChile (กรมส่งเสริมการค้า การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน) เตรียมพร้อมจัดการประชุม Chile-ASEAN Business Summit 2025 ขึ้นในกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของความตกลงเขตการค้าเสรีชิลี–ไทย (Chile-Thai FTA)  โดยมี นางคลอเดีย ซานฮูเอซา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี นายอิกนาซิโอ เฟร์นันเดซ ProChile General Director และผู้บริหารระดับสูงเป็นตัวแทนภาครัฐ นำนักธุรกิจผู้ส่งออกจากประเทศชิลีมาพบปะคู่ค้าและคู่เจรจาในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10-12 กันยายน 2568  ณ โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี  สุขุมวิท

    มร. ออสการ์ อาริอากาดา ผู้แทนการค้าชิลีประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า  Chile-ASEAN Business Summit 2025 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ในวันที่ 8 กันยายน และต่อเนื่องมาจัดที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 10-12 กันยายน ศกนี้ โดยเป็นการประชุมสุดยอดด้านธุรกิจ การค้า การลงทุนที่จัดขึ้นเป็นด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน

     ในโอกาสนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงและผู้นำธุรกิจกว่า 20 บริษัทในอุตสาหกรรมอาหารทะเล เกษตรแปรรูป และธุรกิจบริการจะเดินทางมาพบปะและเจรจาการค้ากับนักธุรกิจและผู้นำเข้าจาก อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยมีผู้แทนการค้าชิลีจากทั่วภูมิภาคอาเซียนร่วมประชุม

       มร. ออสการ์ อาริอากาดา ผู้แทนการค้าชิลีประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ภูมิประเทศและภูมิอากาศที่มีความแตกต่าง อันประกอบด้วยทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุด เทือกเขาสูงจนถึงพื้นที่ชุ่มชื้นติดชายฝั่งทะเลไปเกือบถึงขั้วโลกใต้ ทำให้ชิลีมีความได้เปรียบด้านการผลิตสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง ProChile ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จะทำหน้าที่คัดสรรและประสานงานร่วมกับสำนักงานในต่างประเทศกว่า 56 แห่งทั่วโลก เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์เหล่านี้สู่ตลาดโลก โดยมุ่งเน้นคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน

     ชิลีมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับ 35 ประเทศทั่วโลกอันครอบคลุมกว่า 80% ของ GDP โลก ผลิตภัณฑ์อาหารและผลไม้จากชิลีหลายชนิดติดอันดับโลก เช่น เชอร์รี พรุน และองุ่น สำหรับในประเทศไทยที่ FTA ชิลี–ไทยมีผลบังคับใช้มาแล้ว      กว่า 10 ปี ขณะนี้มีสินค้าอาหารทะเล ผลไม้ ธัญพืช และไวน์ เป็นหลัก  ผลไม้จากชิลีที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไทย 5 รายการ ได้แก่ องุ่น เชอร์รี บลูเบอร์รี กีวี และแอปเปิล ทั้งนี้ เป็นที่คาดหวังว่า ในอนาคต ชิลีจะสามารถเจรจาขยายความหลากหลายของสินค้าที่เข้าสู่ตลาดไทย อาทิ เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ ฯลฯ  นอกเหนือจากการส่งออกสินค้าเหล่านี้แล้ว ชิลียังมุ่งส่งเสริมความร่วมมือกับไทยและอาเซียนในภาคบริการอื่น ๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Services) อีกด้วย

    ตลอด 3 วันของกิจกรรมในประเทศไทย Chile-ASEAN Business Summit 2025 จะมุ่งเน้นการส่งเสริมการส่งออกของชิลีสู่ตลาดไทยและอาเซียน ขยายการเข้าถึงตลาดให้กับบริษัทที่ดำเนินงานอยู่ในภูมิภาคนี้ ส่งเสริมการขยายธุรกิจระหว่างประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของชิลี  ตลอดจนเน้นย้ำบทบาทของชิลีในฐานะแพลตฟอร์มในการเข้าถึงละตินอเมริกา โดยการประชุมจะจัดขึ้น ณ Hyatt Regency BKK Sukhumvit ประกอบด้วยการจับคู่เจรจาทางธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกชิลีและผู้นำเข้าของอาเซียน  รวมถึงเวิร์กช็อปไวน์และการสาธิตการทำอาหารโดยเชฟชาวชิลี ก่อนการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้และวันชาติชิลีที่จะมาถึงในวันที่ 18 กันยายน ด้วยดินเนอร์จากวัตถุดิบชั้นเลิศของดินแดนแสนมหัศจรรย์ในละตินอเมริกาแห่งนี้

     นอกจากนั้น ผู้ร่วมการประชุมจะได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมการตลาดกับแบรนด์ของสมาคมที่เกี่ยวข้องและผู้นำเข้าของไทย อาทิ The Mall, Central Food Wholesale ตลอดจนการ ดูงาน ณ คลังสินค้าศุลกากร ลาดกระบัง และ คลังสินค้าการบินไทย เป็นต้น

     หนึ่งในวาระสำคัญของ ASEAN Business Meeting 2025 คือการคิกออฟการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของการตกลงการค้าเสรีชิลี-ไทย (FTA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นมา ทั้งสองประเทศมีความตกลงการค้า   เสรี (FTA) ที่ช่วยพัฒนาการค้าทวิภาคีให้เติบโตมากกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

     ในปี 2567 มูลค่าการส่งออกจากชิลีมายังไทยมีมูลค่าเกิน 680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้ว่าทองแดงและเยื่อกระดาษยังคงเป็นสินค้าส่งออกหลัก แต่การส่งออกสินค้าอาหาร เช่น แซลมอนและปลาเทราต์ เชอร์รีสด แป้งมันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช น้ำมันปลา หอยแมลงภู่ ปลาหมึกยักษ์ และสินค้าอื่น ๆ รวมถึงการส่งออกด้านบริการ ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้การส่งออกที่ไม่ใช่ทองแดงและลิเทียมมีมูลค่าเกิน 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เพิ่มขึ้น 7.8%

    ประเทศไทยเป็นตลาดหลักของการส่งออกจากชิลีในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งรวมถึง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ลาว และเมียนมา การค้าระหว่างชิลีกับกลุ่มนี้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5.1% ตั้งแต่ปี 2561 โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 11% ต่อปีในช่วงเวลาดังกล่าว จนถึง 906 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้า 4.3%

                                                     

                                                                                                                                        

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568

ททท. เปิดทริปบุญสายศรัทธา “มหาเศรษฐีปีมะเส็ง เฮงยืนหนึ่งรับปีมะเมีย” เที่ยวเมืองตาก เสริมพลังชีวิต

 ททท. เปิดทริปบุญสายศรัทธา 

“มหาเศรษฐีปีมะเส็ง เฮงยืนหนึ่งรับปีมะเมีย” 

เที่ยวเมืองตาก เสริมพลังชีวิต

    โรงแรมในเครือฟอร์จูนกรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND จับมือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตรทางธุรกิจ จัดทริปบุญสายศรัทธา “มหาเศรษฐีปีมะเส็ง เฮงยืนหนึ่งรับปีมะเมีย” ระหว่างวันที่ 18 – 20 สิงหาคม 2568 ณ จังหวัดตาก โดยมี อาจารย์คฑา ชินบัญชรผู้นำสายมูชื่อดัง นำสื่อมวลชน นักท่องเที่ยว และผู้แทนจากหลายองค์กร เดินทางเสริมสิริมงคล พร้อมสัมผัสเสน่ห์การท่องเที่ยวเชิงศรัทธาและวัฒนธรรมท้องถิ่น



     โดยคณะได้รับเกียรติจากผู้บริหารและพันธมิตรหลายภาคส่วนมาอาทิ นายศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Max Solution Service จำกัด (PTG Group), นายเยี่ยม เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการกลุ่มงานธุรกิจโรงแรม CP LAND, นายวรดนู นิมมิต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร CP LAND, และคุณชุตินันท์ รวมพลังเอก ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ CP LAND ร่วมในพิธีต้อนรับและกิจกรรมเปิดทริป พร้อมด้วยพันธมิตรจาก Sixt, X Peng และคณะสื่อมวลชน



     การเดินทางครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และคณะผู้บริหารจังหวัด รวมทั้ง นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก มาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนเริ่มต้นเส้นทางแห่งศรัทธาที่พาไปสักการะสถานที่สำคัญ ต่างๆ อาทิ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นศาลาจตุรมุข ภายในมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาดใหญ่กว่าองค์จริงเล็กน้อย ในพระอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกว่า "พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ.2277 สวรรคต พ.ศ 2325 รวม 48 พรรษา” และมีภาพพระประวัติพระเจ้าตากร่วมห่มผ้าพระบรมธาตุเจดีย์ พระธาตุประจำปีเกิดของปีมะเมีย ณ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก , การสวดบารมี 30 ทัศน์ ณ วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม และชมความสวยงามของวัดไทยวัฒนาราม วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งสร้างด้วยศิลปะแบบพม่า สีเหลืองทองอร่ามวิจิตรงดงามตระการตา และกราบนมัสการ “พระพุทธมหามุนีจำลอง” ที่ได้จำลองมาจากองค์จริงที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า  



     นอกจากนี้ คณะยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ณ บ้านแม่กาษา ผ่านโครงการ “ฮักนะแม่กาษา” โดยมีพิธีมัดมือรับพรจากผู้สูงอายุ ร่วมกิจกรรมพื้นบ้าน ทำขนมโบราณ และชมงานหัตถกรรมทอผ้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น อันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน



     ทริปบุญครั้งนี้ไม่เพียงมอบพลังศรัทธาและพลังใจให้แก่ผู้เข้าร่วม แต่ยังสะท้อนถึงความงดงามของจังหวัดตากในฐานะจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยพลังบวก โดยมีเสียงสะท้อนร่วมกันว่า “เมืองตาก…คือสถานที่ที่อยากกลับมารับพลังบวกซ้ำแล้วซ้ำอีก”

#CPLAND #ซีพีแลนด์ #AccessibleCommunitiesForLife #คุณภาพเพื่อทุกชีวิต #โรงแรมในเครือฟอร์จูน #โรงแรมฟอร์จูน #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สวพส. หนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนเกษตรยั่งยืน บนดอยแม่สลอ

สวพส. หนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ 

ขับเคลื่อนเกษตรยั่งยืน

บนดอยแม่สลอง

     ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย นอกจากความงดงามของไร่ชาและผลไม้เมืองหนาว ยังเป็นพื้นที่แห่งความร่วมมือและการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนของเกษตรกรท้องถิ่น

     หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จคือ “กลุ่มแม่สลองพืชผล” เกษตรกร 21 ครอบครัวรวมตัวกัน วางแผนการผลิตล่วงหน้า และส่งมอบผักสดต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งผักสลัด ผักกวางตุ้ง และผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ การรวมกลุ่มช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคง พร้อมเครือข่ายการเรียนรู้ สมาชิกสามารถปรึกษาและแก้ปัญหาเรื่องโรคพืชหรือศัตรูพืชร่วมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

     อีกหนึ่งแรงบันดาลใจจากคนรุ่นใหม่ คือคุณธีรวัฒน์ หวุ่ยซือกู่ ชายจากบ้านป่าคาสุขใจ ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง หลังทำงานโรงงานที่เกาหลีใต้กว่า 6 ปี เขาตัดสินใจกลับมาสืบสานอาชีพเกษตรกรของครอบครัว เริ่มเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่ศูนย์ โดยมีพ่อเป็นครูคนแรก และรับความรู้ใหม่จากสวพส. การสร้างโรงเรือนไม้ไผ่และระบบน้ำหยดช่วยควบคุมสภาพแวดล้อม ทำให้ผลผลิตเติบโตสม่ำเสมอ ปัจจุบันเขามีรายได้กว่า 45,000–50,000 บาทต่อเดือน ขยายเป็นโรงเรือนเหล็ก 9 โรงเรือน บนพื้นที่กว่า 8 ไร่ พร้อมแผนจำหน่ายผลผลิตผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วประเทศ

เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือคุณสุพจ หวุ่ยซือกู่ ผู้เป็นบิดา เกษตรกรหัวไวใจสู้รุ่นแรกที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่สูงตามแนวทางโครงการหลวงแม่สลองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554  ด้วยหัวใจนักสู้และความกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ เขาได้สร้างโรงเรือนปลูกผักเมืองหนาว และขยายองค์ความรู้สู่เกษตรกรในพื้นที่จัดตั้งเป็น “กลุ่มแม่สลองพืชผล” สร้างรายได้ที่มั่นคงเฉลี่ยถึง 4 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลูก ๆ ได้รับโอกาสทางการศึกษา และยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนในชุมชนเห็นคุณค่าของการเปลี่ยนแปลง

     เรื่องราวของกลุ่มแม่สลองพืชผลและครอบครัวหวุ่ยซือกู่ สะท้อนถึงการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ที่ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับความรู้สมัยใหม่ การสนับสนุนจากสวพส. ไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กลับมาสืบสานรากเหง้าและพัฒนาชุมชนของตนเองให้ก้าวไกล





คิกออฟการเฉลิมฉลอง 10 ปี กรอบการค้า ชิลี-ไทย จัดใหญ่ Chile-ASEAN Business Summit เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ

คิกออฟการเฉลิมฉลอง 10 ปี กรอบการค้า ชิลี-ไทย จัดใหญ่ Chile-ASEAN Business Summit เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ   นำนักธุรกิจพบปะจับคู่กระตุ้นการค้า...