วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ เสด็จพระราชทานเข็ม “พุ่มเพชร”

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ เสด็จพระราชทานเข็ม “พุ่มเพชร” 

สัญลักษณ์ของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์

      สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประธานที่ปรึกษามูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเข็ม “พุ่มเพชร” สัญลักษณ์ของมูลนิธิฯ แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ในฐานะประธานคณะกรรมการทุนการศึกษาของมูลนิธิฯ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดที่ดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ในฐานะประธานคณะกรรมการอุปการะเยาวชนประจำจังหวัดของมูลนิธิฯ ประธานคณะกรรมการอุปการะเยาวชนประจำกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ทำคุณประโยชน์ให้มูลนิธิฯ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ม.ร.ว.พร้อมฉัตร สวัสดิวัตน์, ผศ.ดร.พรทิพย์ พุกผาสุข   นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ - ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ, คุณอารยา อรุณานนท์ชัย, คุณทิพวิภา สุวรรณรัฐ, คุณอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์, คุณสุดฤทัย เลิศเกษม, ดร.ประวิช รัตนเพียร, ดร.พรชัย มงคลวนิช เป็นต้น ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย

      การเสด็จพระราชดำเนินกระทรวงมหาดไทยครั้งนี้ นอกจากเป็นครั้งปฐมฤกษ์แล้ว ยังนำซึ่งสิริมงคล และพระราชทานขวัญกำลังใจแก่ผู้เป็นกำลังสำคัญในการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในจังหวัดต่างๆ เป็นยิ่งนัก ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในจังหวัดให้เป็นพลเมืองที่ดีมีคุณธรรมของประเทศชาติสืบไป

       การจัดงานพระราชทานเข็ม “พุ่มเพชร”  ได้รับความสนับสนุนอย่างดียิ่งจากกระทรวงมหาดไทย โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และรองประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิฯ เป็นประธานจัดงานฯ 

      ก่อนเริ่มพิธีหม่อมราชวงศ์ พร้อมฉัตร สวัสดิวัตน์ รองประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเข็ม “พุ่มเพชร” สัญลักษณ์มูลนิธิ ฯ แด่องค์ประธานในพิธี เข็มพุ่มเพชรนี้ตกแต่งมาจาก “พุ่มเพชร” เครื่องหมายของการจัดงาน “นาฏลีลาน้อมเกล้าฯ” เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นปีที่ ๓๖ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยปีนี้มีผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าเฝ้ารับพระราชทานเข็ม “พุ่มเพชร” ๕๐ จังหวัด และประธานแม่บ้านมหาดไทย ๓๘  จังหวัด รวม ๘๘ คน

       กระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯอย่างดียิ่งต่อเนื่องตลอดมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี ๒๕๒๕ ในวโรกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี ซึ่งคณะกรรมการสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์  โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มอบให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าของเรื่องสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด อาทิ คัดเลือกเยาวชนผู้ยากไร้ด้อยโอกาสและขาดแคลนทุนการศึกษาจากอำเภอต่างๆ เข้ารับทุนมูลนิธิฯ และจัดการส่งทุนการศึกษาให้ถึงมือเยาวชนอย่างครบถ้วนและรวดเร็ว

      สำหรับประธานประธานแม่บ้านมหาดไทยมีหน้าที่สร้างเสริมสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง โดยไปเยี่ยมเยียนติดตามดูแลทุกข์สุขของเยาวชนผู้รับทุนมูลนิธิฯ อย่างใกล้ชิด อันจะส่งผลให้เยาวชนมีความรู้สึกอบอุ่น ไม่โดดเดี่ยว และเป็นการสกัดกั้นยาเสพติดต้นเหตุแห่งปัญหาในกลุ่มเยาวชน ผู้ด้อยประสบการณ์ชีวิตได้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อผนึกกำลังใจร่วมกันพัฒนาเยาวชนที่มีความประพฤติดี และยากไร้ในแต่ละจังหวัด ให้มีความรู้ควบคู่คุณธรรม  มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งคุณธรรมล้ำค่าดังกล่าวคู่ควรแก่การปลูกฝังไว้ในสายเลือดของเยาวชนไทยทุกคนสืบไป เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์

       มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ก่อตั้ง โดย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บุคคลสำคัญของโลก ทรงเป็นประธานก่อตั้งมูลนิธิฯ ตามคำกราบทูลเชิญของหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก ผู้ประสานการก่อตั้ง

      มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม รับมูลนิธิฯ ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อปี ๒๕๒๖  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ ปัจจุบัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเป็นประธานมูลนิธิฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓  ตามคำกราบทูลเชิญของที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการอำนวยการมูลนิธิฯ เพื่อทรงเป็นศูนย์รวมใจ ประทานพระเมตตาบารมีคุ้มเกล้าฯ ให้มูลนิธิฯ สามารถดำเนินงานที่ยังคุณประโยชน์ต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ได้อย่างมั่นคง และเป็นที่ศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป

        ปัจจุบันมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ ได้รับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศ สำหรับให้เป็นทุนการศึกษาอบรมแก่เยาวชนทุกอำเภอทุกสังกัด ทุกระดับการศึกษา จำนวนทั้งสิ้นเกือบ ๓ พันคน เป็นเงินประมาณ ๑๒ ล้านบาท และตลอด ๔๒ ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ให้ทุนการศึกษาอบรมแก่เยาวชนไปแล้วรวมทั้งสิ้นประมาณ ๓๓,๐๐๐ ทุน เป็นเงินทุนทั้งสิ้นกว่าเกือบ ๓๐๐ ล้านบาท

         ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมชุบชีวิต ให้โอกาสเยาวชนผู้ยากไร้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องติดต่อบริจาคเงินได้ที่ มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ ไลน์ไอดี ๐๘-๐๔๐๔-๒๔๓๙ และ ๐๘๕-๑๑๔-๘๙๐๐ โทร. ๐๘-๐๔๐๔-๒๔๓๙ ใบเสร็จรับเงินนำไปลดหย่อนภาษีได้ และติดตามการดำเนินงานของมูลนิธิฯ กว่า ๔๒ ปี ในการพัฒนาเยาวชนฯ ได้ที่ เฟสบุ๊ค : มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ เว็บไซต์ : www.ruamchit-normklao.org



อบจ.ภูเก็ต ยกระดับด้านการสาธารณสุขมูลฐานและบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ โชว์ความสำเร็จ พร้อมเป็นต้นแบบ รพ.สต. ให้กับจังหวัดอื่น

อบจ.ภูเก็ต ยกระดับด้านการสาธารณสุขมูลฐานและบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ

โชว์ความสำเร็จ พร้อมเป็นต้นแบบ รพ.สต. ให้กับจังหวัดอื่น


      การถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปสังกัดอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการกระจายอำนาจด้านสาธารณสุข ที่ทำให้ท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดสรรทรัพยากรและจัดบริการสุขภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้การดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทำได้แบบครบถ้วนสมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น และช่วยลดปัจจัยเสี่ยง ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่น้อยลง โดยที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ถอดความสำเร็จของโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต และ รพ.สต. พร้อมยกให้เป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

      องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) มีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านสาธารณสุข ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านระบบบริการ ส่งเสริมป้องกันโรค การพัฒนาบุคลากร การใช้เทคโนโลยีในการบริการสาธารณสุข และการพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตให้มีสุขภาพดีและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ตามแนวทาง “การพัฒนากระบวนการรับรองคุณภาพแบบสากลด้วยวิถีคนภูเก็ต”

      นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศไทย และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. รวมถึงสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 21 แห่ง ซึ่งได้รับการถ่ายโอนมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มาตั้งแต่ปี 2565 และดำเนินการครบถ้วนในปี 2567 เพื่อแบ่งเบาภาระ ลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐในพื้นที่ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรอบเกาะสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้สะดวก ควบคู่กับการดำเนิน “โครงการอยู่ที่ไหน ก็ใกล้หมอ” และ “โครงการใกล้บ้าน ใกล้ใจ”


ที่สำคัญการถ่ายโอนภารกิจครั้งนี้ ยังทำให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการงบประมาณได้ทันที กรณีที่ขาดอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ และการปรับปรุงอาคารสถานที่ ซึ่งจะต้องใช้ความรวดเร็วในการดำเนินการ ประชาชนผู้ใช้บริการมีความพอใจในภาพรวมของโครงการฯ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาลปฐมภูมิ เพื่อยกระดับด้านการสาธารณสุขมูลฐานและบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิในจังหวัดภูเก็ต จนได้มาตรฐานสถานพยาบาลปฐมภูมิ สามารถเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเมืองภูเก็ตให้เป็น Safety City และ Healthy City ที่จะเป็นส่วนขับเคลื่อนตามนโยบายของ อบจ. ภูเก็ต ที่จะพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยและทันสมัยด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่แบบครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านสาธารณสุข คมนาคม ท่องเที่ยว สาธารณูปโภค ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน


       นอกจากนี้ ประชาชนและผู้ป่วยที่มารอใช้บริการของโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ส่วนใหญ่พอใจและชื่นชมการบริหารจัดการของโรงพยาบาลที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยไม่ต้องรอคิวนาน ผ่านมาตรการที่ทางโรงพยาบาลวางไว้อย่างเป็นระบบ และคาดว่าถ้ามีการปรับปรุงและพัฒนาโรงพยาบาลใหม่ให้ทันสมัย จะมีประชาชนมาใช้บริการมากขึ้นแน่นอน


โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ เชิญทุกท่านถือศีล กินเจ ในช่วง “เทศกาลถือศีลกินเจ” ที่ห้องอาหารจีนหยก และห้องดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ

โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ เชิญทุกท่านถือศีล กินเจ ในช่วง “เทศกาลถือศีลกินเจ” ที่ห้องอาหารจีนหยก  และห้องดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ  

   
       โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ร่วมจัดอาหารเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ  ระหว่างวันที่ 3 – 11 ตุลาคม 2567  ด้วยเมนูหลากหลายดังนี้ 



       ห้องอาหารจีนหยก  บริการติ่มซำเจเฉพาะมื้อกลางวัน ราคาเข่งละ 120 บาท++ และอาหารเจตามสั่ง เช่น เป็ดปักกิ่งเจ หอยจ๊อเจ ปลาเผือกซอสพริกไทยดำ ข้าวผัดหยางโจว เต้าหู้มาฝ่อเจ ซุปเห็ดรวมเจ เป็นต้น ราคาเริ่มต้นที่ 190 บาท++ 



       ห้องดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ  จัดอาหารเจตามสั่ง อาทิ ราดหน้าเบญจพรรณ ข้าวผัดพริกขิงเจ เต้าหู้ทรงเครื่อง ผัดไทย เพียงที่ละ 150 บาท++ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2276-4567 ต่อ 8413 และ 8429 หรือไลน์ @theemeraldhotel และ www.facebook.com/theemeraldhotel

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนสาธุชนร่วมถือศีล อิ่มบุญ อิ่มใจ ใน "เทศกาลกินเจ ประจำปี 2567"

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนสาธุชนร่วมถือศีล อิ่มบุญ อิ่มใจ ใน "เทศกาลกินเจ ประจำปี 2567"

สักการะหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเป็นสิริมงคล รับบริการอาหารเจฟรี และร่วมพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์ 

ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย

       มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ขอเชิญชวนศิษยา-นุศิษย์และสาธุชนทุกท่าน ร่วมถือศีล อิ่มบุญ อิ่มใจ ศีลกินผัก ละเว้นเนื้อสัตว์ เนื่องในเทศกาลกินเจ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 2 - 12 ตุลาคม 2567 สักการะหลวงปู่ไต้ฮง เพื่อความเป็นสิริมงคล ทำบุญประทีปโคมไฟ (เต็งลั้ง) ถวายหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเจริญรุ่งเรือง

และในวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ขอเชิญร่วมพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์รอบนอกศาลเจ้าไต้ฮงกง ขอพรให้คุ้มครอง แคล้วคลาดปลอดภัย ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

         โดยในช่วงวันที่ 2-11 ตุลาคม 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดให้มีบริการอาหารเจ [ในรูปแบบบรรจุกล่องกลับบ้าน] แก่ประชาชนฟรี วันละ 2 มื้อ (เช้าและกลางวัน) โดยเริ่มบริการตั้งแต่มื้อเที่ยงของวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 1 – 12 ตุลาคม 67 ขอเชิญชวนประชาชนชมอุปรากรจีน (งิ้ว) ที่คณะลูกศิษย์หลวงปู่ไต้ฮงจัดถวายรวม 12 คืน ณ บริเวณฝั่งสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

        และในวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดจัดพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์รอบนอกศาลเจ้าไต้ฮงกง ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากเทพเจ้าเพื่อเป็นสิริมงคล โดยเชื่อว่าเมื่อรับพรจากเทพเจ้าแล้ว จะทำให้จิตใจเบิกบาน ผ่องแผ้ว มีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง จึงขอเชิญชวนสาธุชน ร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าว 

     

            *** ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน ผู้มีจิตศรัทธาที่ประสงค์เข้าร่วมพิธี โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทาง พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ เตรียมพร้อมร่างกาย จิตใจ ในเข้าร่วมพิธี ***

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/pohtecktungofficial

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

EEC จัดมอบรางวัลการประกวดกลุ่มเยาวชนนักผลิตสื่อสร้างสรรค์ อีอีซี สแควร์ (EEC2) ปี 2567 : EEC Square Young Content Creator

EEC จัดมอบรางวัลการประกวดกลุ่มเยาวชนนักผลิตสื่อสร้างสรรค์ อีอีซี สแควร์ (EEC2) ปี 2567 : EEC Square Young Content Creator 

สร้างเครือข่ายเยาวชน ผลักดันศักยภาพสู่การเป็น Content Creator

       สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ได้จัดกิจกรรมประกาศผลรางวัล การประกวดกลุ่มเยาวชนนักผลิตสื่อสร้างสรรค์ อีอีซี สแควร์ (EEC2) ปี 2567 : EEC Square Young Content Creator ในหัวข้อ “นี่แหละ ภูมิปัญญาบ้านฉัน THIS IS MY LOCAL WISDOM” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบประกาศนียบัตร และมอบรางวัลให้แก่กลุ่มเยาวชน ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 3 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567




       การประกวดกลุ่มเยาวชนนักผลิตสื่อสร้างสรรค์ อีอีซี สแควร์ (EEC2) ปี 2567 : EEC Square Young Content Creator ในหัวข้อ “นี่แหละ ภูมิปัญญาบ้านฉัน THIS IS MY LOCAL WISDOM” ในครั้งนี้ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวงการสื่อสารไทยร่วมตัดสิน ผลงานของเยาวชนทั้งรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ อีก 5 ท่าน ได้แก่ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ, คุณหน่อง อรุโณชา กรรมการผู้จัดการ บอร์ดคาสท์ไทย เทเลวิชั่น ผู้จัดละครมากฝีมือ, คุณเก่ง ธชย The Voice ซีซั่น 1 และศิลปินส่งเสริมวัฒธรรมไทยยอดเยี่ยม, คุณเอม วรรณิตา Influencer และอดีตผู้จัดการ บิวตี้และแฟชั่น บริษัท Bytedance (Tiktok) แห่งประเทศไทย และอาจารย์ศาสวัต อาจารย์เอกภาพยนตร์ สาขานิเทศศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร มาร่วมกันตัดสินคลิปวิดีโอและ Content ที่เยาวชนส่งเข้าประกวด
      นอกจากนี้ ยังได้จัดการบรรยายพิเศษในการเปิดมุมมองและแชร์ประสบการณ์จากผู้กำกับรางวัลระดับโลกในหัวข้อ “วิธีดึง Ideas ออกจากสมองตัวเอง” โดย อั๋น-วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร ผู้ก่อตั้งและผู้กำกับ บริษัท แฟคทอรีโอวัน จำกัด



       สำหรับผลการตัดสินการประกวดกลุ่มเยาวชนนักผลิตสื่อสร้างสรรค์ อีอีซี สแควร์ (EEC2) ปี 2567 : EEC Square Young Content Creator ในหัวข้อ “นี่แหละ ภูมิปัญญาบ้านฉัน THIS IS MY LOCAL WISDOM” ในครั้งนี้ 
       โรงเรียนที่ได้รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ทีม SPSS MY BEST LOCAL WISDOM IN  RAYONG  จากโรงเรียนสุนทรภู่พิทยา จังหวัดระยอง ซึ่งได้ส่งผลงานนำเสนอภูมิปัญหาเรื่อง
หัตถกวี



      รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีม BPP จากโรงเรียนสิงห์สมุทร จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้ส่งผลงานนำเสนอภูมิปัญหาเรื่อง สะดือมังกร 
      รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีม จบนะวิ! จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเปร็งวิสุทธาธิบดี จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งได้ส่งผลงานนำเสนอภูมิปัญหาเรื่อง เรือสิงห์หนุ่ม ความแกร่งแห่งสายน้ำ



     และรางวัล popular vote ซึ่งได้รับคะแนนโหวตจากการกด Like และ comment สูงที่สุด ผ่านช่องทาง facebook fanpage EEC Square Young Content Creator  ได้แก่ทีมโรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา จากโรงเรียนโรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา จังหวัดระยอง ซึ่งได้ส่งผลงานนำเสนอภูมิปัญหาเรื่อง ผ้าหมักโคลนทะเล ภูมิปัญญาบ้านฉางบ้านฉัน



       นอกจากนี้ อีอีซี ผู้ใหญ่ใจดี ยังมอบรางวัลพิเศษ สร้างโอกาสต่อยอดผลงานและพัฒนาศักยภาพให้แก่น้องๆเยาวชนที่ได้รับรางวัล ให้น้องได้ร่วมงานหรือฝึกงานกับทีมงานระดับมืออาชีพ อาทิ คุณเก่ง ธชย ศิลปินผู้มากความสามารถ และรักความเป็นไทย คุณเอม วรรณิตา นักปั้นเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และติ๊กตอกเกอร์ สร้างประสบการณ์ทำงานกับแบรนด์สินค้าต่างชาติระดับโลก บริษัท A.PLANNED Production house ร่วมฝึกงานสร้างแรงบันดาลใจการเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ ทีม Gravity motion production house ที่จะพาน้องๆไปศึกษาดูการทำงานจริงในกองถ่าย MV ของศิลปิน T-pop  หรือจะเป็นการร่วมงานกับ Infuencer มืออาชีพ ในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวดีๆของพื้นที่ชุชนใน อีอีซี ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้น้องๆเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านการทำงานกับมืออาชีพและผู้ที่คว่ำหวอดในวงการบันเทิงทั้งไทยและสากล



        กิจกรรมค่ายอบรมและการประกวดกลุ่มเยาวชนนักผลิตสื่อสร้างสรรค์ อีอีซี สแควร์ (EEC2) ปี 2567 : EEC Square Young Content Creator ภายใต้หัวข้อ “นี่แหละ ภูมิปัญญาบ้านฉัน THIS IS MY LOCAL WISDOM” สกพอ. ได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อสร้างโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชนรุ่นใหม่ในเขตพื้นที่ อีอีซี ประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ได้พัฒนาศักยภาพให้มีทักษะด้านการสื่อสารที่สอดคล้องกับยุคสมัย โดยการดำเนินกิจกรรมมีการจัดค่ายอบรมแก่กลุ่มเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือก 20 ทีม ผลักดันศักยภาพสร้างสมประสบการณ์อย่างเข้มข้นร่วมกับวิทยากรชั้นนำ ให้น้องๆก้าวข้ามขีดความสามารถของตน ทั้ง การคิดอย่างสร้างสรรค์ การลงพื้นที่ถ่ายทำจริง เทคนิคการปรับสีภาพ การเล่าเรื่องด้วยลำดับภาพผ่านการตัดต่อ และความรู้เจาะลึกเกี่ยวกับอาชีพ Influencer แบบไม่มีในตำรา รวมถึงมีส่วนร่วมในการสืบสานถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่ พร้อมทั้งมีความเข้าใจในการพัฒนา อีอีซี ทั้งหมดนี้ นอกจากการพัฒนาทักษะที่เพิ่มขีดความสามารถแล้ว ยังเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชนกลุ่มผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านสื่อออนไลน์ “EEC Square Young Content Creator” ให้เป็นแรงขับเคลื่อนช่วยเผยแพร่ข้อมูลการพัฒนา อีอีซี สร้างประโยชน์ให้ชุมชน และขยายการสร้างการรับรู้การพัฒนา อีอีซี ต่อไป
         สำหรับกลุ่มเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบมาเป็นเครือข่ายทั้ง 20 ทีม จะได้รับตำแหน่งเป็น EEC Young Influencer ซึ่งเป็นภารกิจต่อไปของเครือข่ายเยาวชนกลุ่มนี้ สามารถติดตามภารกิจต่อไปของน้องๆได้ที่ เฟสบุ๊คเพจ : EEC Square Young Content Creator หรือ เฟสบุ๊คเพจ : Eastern Economic Corridor - EEC

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567

ททท. จัดแคมเปญ “WOW! Thailand Passport Privileges” มอบส่วนลดสุด WOW

ททท. จัดแคมเปญ “WOW! Thailand Passport Privileges” 

มอบส่วนลดสุด WOW เร่งเป้าไตรมาสสุดท้าย

ผลักดันรายได้ท่องเที่ยวสู่เป้า 3.5 ล้านล้านบาท

      การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวโครงการ Amazing Thailand Passport Privileges ด้วยแคมเปญ “WOW! Thailand Passport Privileges” มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษสำหรับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์การบริการที่ดีให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยมี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ นางศรัญญา บุณยวัทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายยุทธศาสตร์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องโถงธนะรัชต์ ชั้น 1 อาคาร ททท. สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567


      นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เร่งดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้ให้ความสำคัญต่อการกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวไทย จึงได้ดำเนินโครงการ Amazing Thailand Passport Privileges จัดแคมเปญ “WOW! Thailand Passport Privileges” มอบส่วนลด สิทธิพิเศษ และของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 โดยมีเป้าหมายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยว ทั้งจากตลาดต่างประเทศระยะใกล้ อาทิ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และตลาดต่างประเทศระยะไกล อาทิ สหราชอาณาจักร อเมริกา แคนาดา และกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป เพื่อผลักดันนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่เป้าหมายของรัฐบาลจำนวน 36.7 ล้านคน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2567 และนำไปสู่ปลายทางความสำเร็จของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในการเป็น Tourism Hub ของภูมิภาค


              แคมเปญ “WOW! Thailand Passport Privileges” มีกิจกรรมไฮไลต์ 4 กิจกรรม ดังนี้ 

กิจกรรมที่ 1 Must Do Souvenirs: From Heart to Hands แจกของที่ระลึกสุดเก๋ ตามแนวคิด 5 Must Do in Thailand ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – 16 ธันวาคม 2567 จำนวน 100,000 ชิ้น อาทิ Must Taste - ข้าวพันธุ์พื้นเมืองและข้าว GI,  Must Try – พวงกุญแจนักมวยจากวัสดุชุมชน, Must Buy – กระเป๋าย่ามไทย, Must Seek - ไม้นวดมือ หมวกผ้าขาวม้า, Must See - พวงกุญแจผีตาโขน พวงกุญแจลูกปัดมโนราห์ ชุดระบายสีโขน เพียงนักท่องเที่ยวแสดงหนังสือเดินทางและลงทะเบียน ณ บูทกิจกรรม บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง ณ 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต

กิจกรรมที่ 2 WOW! Thailand: Must Do Package มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษสุด Wow ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 10,000 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ณ บูทกิจกรรม บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ 3 ท่าอากาศยานที่กำหนด และสิทธิพิเศษทั่วไปสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/wowthailandpassportprivileges เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถกดรับสิทธิ์และนำหนังสือเดินทางไปยื่นใช้ประกอบการ Redeem สิทธิ์ที่สถานประกอบการที่เข้าร่วมรายการได้

กิจกรรมที่ 3 WOW! Thailand: Lucky Number มอบของรางวัลสุดพิเศษ Full Board ประกอบด้วยบัตรโดยสารเครื่องบินภายในประเทศ ส่วนลดที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมต่างๆ จำนวน 20 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 35,000 บาท รวมมูลค่า 700,000 บาทให้กับนักท่องเที่ยวผู้โชคดี ทุกคนที่ 10,000 ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ อาทิ คนที่ 10,000 คนที่ 20,000 ไปจนถึงคนที่ 200,000

กิจกรรมที่ 4 WOW! Thailand: Big Surprise! นักท่องเที่ยวยังมีสิทธิลุ้นรับของรางวัลสุดเซอร์ไพรส์ จำนวน 1 รางวัล มูลค่ารวม 300,000 บาท จากการสุ่มรายชื่อของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ

      ด้าน นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. กล่าวว่า สำหรับโครงการ Amazing Thailand Passport Privileges ได้รวบรวมสถานประกอบการต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า บัตรเครดิต สายการบิน ภัตตาคาร/ร้านอาหาร ศูนย์สุขภาพ ร่วมมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษสาหรับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว โดยมีสถานประกอบการเข้าร่วมมากกว่า 300 สถานประกอบการ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศรีราชา โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต ลักซ์ชัวรี พูล วิลล่า  โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ป่าตอง บีช โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ สุขุมวิท  มาสุมิ สปา เชียงใหม่  โรงแรมอัมรา กรุงเทพ  คชา รีสอร์ท เกาะช้าง  เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถแสดงหนังสือเดินทางในการรับสิทธิพิเศษได้ทันที เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการนำเสนอสินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

      ส่วน นางศรัญญา บุณยวัทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายยุทธศาสตร์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่าอากาศยานไทยได้ให้การสนับสนุนโครงการ Amazing Thailand Passport Privileges โดยมอบพื้นที่ใน 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ท่าอากาศยานดอนเมือง และ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ซึ่งเป็น 3 ท่าอากาศยานที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นจุดมอบของที่ระลึกของโครงการให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย โดยหวังว่า จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น

       ททท. เชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Passport Privileges ด้วยแคมเปญ “WOW! Thailand Passport Privileges” ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการฯ ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตลอดจนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่เป้าหมายรายได้ภาพรวม 3.5 ล้านล้านบาท ในปี 2567 ให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Amazing Thailand Passport Privileges ได้ที่เว็บไซต์ www.tourismthailand.org/#wowthailandpassportprivileges 




Chula, PMCU, Nylon ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน จัดงาน "BANTHATTHONG FREEDOM STREET FOR ALL" ชวนมาร่วมพัฒนาเมืองให้ยั่งยืน สร้างพื้นที่ดีๆ ชวนคนเมืองออกมาแต่งผีกลางสี่แยกบรรทัดทอง วันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลาสี่โมงเย็น ถึงเที่ยงคืน Chula, PMCU, Nylon ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน จัดงาน "BANTHATTHONG FREEDOM STREET FOR ALL" ทำบรรทัดทองให้เป็นถนนแห่งความสุขของทุกคน ต่อยอดแนวคิดการพัฒนาเมืองให้ยั่งยืนสร้างพื้นที่ดีดี ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ออกมาใช้ชีวิต ทำกิจกรรม และแสดงความสามารถ โดยคราวนี้กลับมาในบรรยากาศส่งท้ายเทศกาล Halloween โดยกิจกรรมในงานมุ่งเน้นการสร้างโมเดลต้นแบบการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ภายใต้กิจกรรมหลักมากมาย ได้แก่ SPIRIT OF SDGs CITY ได้แก่ • My Cup, My City ร่วมกันปราบผีถ้วยแก้วรณรงค์ลดแก้ว, กระดาษ, พลาสติก หันมาใช้แก้วของตนเองเพื่อเป็นการลดขยะ ลดโลกร้อน พร้อมรับส่วนลดจากร้านดังในบรรทัดทอง-สวนหลวงมากมาย อาทิ หนึ่งนมนัว, ตั้งใจจุ่ม, น้ำเต้าหู้, ต้องปัง, ขนมไทยแม่เดือน,Mee Khun, Yoko Donut And John’s Lemon, บริษัท ริช แฮพเพนส์จำกัด, MIRUKU, ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน, "Newtro Cafe (นิวโทรคาเฟ่), เบ็ดเตล็ด และ The Hat Trick Hostel • ปั่น ปลอดภัย ไปบรรทัดทอง ชวนนั่งรถสาธารณะ พร้อมเดินทางด้วยการปั่น บนทริปสนุก ๆ จาก BUCA • BANTHATTHONG CITY MODEL ชวนมาร่วมแชร์ไอเดียกับโมเดลการพัฒนาทางเท้าและพื้นที่คลองให้เป็นพื้นที่ “ความสุข” ของทุกคนโดย We!Park • TRICK or TRASH ทิ้งผิด โดนหลอก มาสนุกกับการทิ้งขยะให้ถูกประเภท พร้อมไอเดียการจัดการขยะดี ๆ จาก Chula Zero Waste SPIRIT ART & SHOW : FREEDOM OF ART เปลี่ยนถนนเป็นเวทีการแสดงที่สนับสนุนทุกความสามารถ ' ร้อง เล่น เต้น โชว์ ' กับศิลปินอิสระและวงดนตรีน้องใหม่ที่จะมาปล่อยของบนถนนบรรทัดทอง SPIRIT STREET : สนุกกับกิจกรรม Body Paint ปิดถนน ปล่อยผี ปลดปล่อยความสุขและไอเดียสร้างสรรค์ แต่งตัวให้สนุกได้ตามใจ มาโพสต์ท่าได้แบบไม่ต้องกลัวใครกลางสี่แยกบรรทัดทอง ขึ้นจอ 360 องศา แบบไม่ซ้ำใคร พร้อมชวนร่วมเล่นเกมส์สนุกสนานภายในงานตลอดเส้นทาง และร่วมรณรงค์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ร่วมกับทีม BUCA ที่เตรียมกิจกรรม Bike Bus พาทุกคนปั่น-ปลอดภัยไปบรรทัดทอง ที่จุดนัดพบหลัก 2 จุด BTS สถานีสนามกีฬา : - จักรยาน จุดจอดหน้าสนามเทพหัสดิน - Muvmi (ให้บริการถึง 23.00 น.) MRT สามย่าน - จักรยาน จุดจอด สามย่านมิตรทาวน์ (ประตูหน้าStarbuck) - Muvmi (ให้บริการถึง 23.00 น.) มาร่วมกันสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้การใช้พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่สำหรับคนทุกคนอย่างยั่งยืน บนถนนบรรทัดทอง ตั้งแต่ ซ.จุฬฯ 12 ถึง ซ.จุฬาฯ 22 ในวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2567 นี้ ตั้งแต่เวลาสี่โมงเย็น ถึงเที่ยงคืน

Chula, PMCU, Nylon ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน จัดงาน "BANTHATTHONG FREEDOM STREET FOR ALL" ชวนมาร่วมพัฒนาเมืองให้ยั่งยืน สร้างพื้น...