วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สมาคมส่งเสริมการศึกษาในถิ่นกันดารในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นำคณะกรรมการไปสงเคราะห์เด็กนักเรียน เขตอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

สมาคมส่งเสริมการศึกษาในถิ่นกันดารในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 

นำคณะกรรมการไปสงเคราะห์เด็กนักเรียน เขตอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

     สมาคมส่งเสริมการศึกษาในถิ่นกันดารในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีนำโดยดร.มนวิภา ประชัญคดี ได้นำคณะกรรมการไปสงเคราะห์เด็กนักเรียน เขตอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีรศ.นพ.ปกิตติ ทยานิธิ, ดร.เกล้าสรวง สุพงษ์ธร, ทันตแพทย์ประสาธน์ชัย -ทันตแพทย์หญิงปิยะรัตน์ โพธิปฐม และสมาชิกท่านอื่นๆ มาร่วมสงเคราะห์ด้วย เมื่อเร็วๆ นี้

    โดยได้ลงพื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โรงเรียนชนบท 3 แห่งได้แก่โรงเรียนบ้านวังยาวโรงเรียนบ้านห้วยระหงส์ และโรงเรียนบ้านปากดุกเพื่อมอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา ชุดเสริมทักษะ และเสื้อกันหนาว การสนับสนุนครั้งนี้ครอบคลุมนักเรียนรวม 430 คน และครู 50 คน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา ลดความขาดแคลน และช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ให้มีอุปกรณ์พื้นฐานในการเรียนรู้ที่เหมาะสม

     นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมเสริมด้านทักษะความรู้ ประกวดเรียงความ  จัดแข่งขันกีฬา เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่นักเรียน  การดำเนินงานตลอด 2 วันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้บริหารโรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ สะท้อนเจตนารมณ์ของโครงการในการยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนให้ดียิ่งขึ้น

ผู้ว่าการ ททท. เยี่ยมชมงาน “Thailand Biennale Phuket”

ผู้ว่าการ ททท. เยี่ยมชมงาน “Thailand Biennale Phuket” 

ผลักดันการท่องเที่ยวตามรอยศิลปิน 

สู่ประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงศิลปะระดับนานาชาติ


     นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เยี่ยมชมงาน “Thailand Biennale Phuket” ผลักดันการท่องเที่ยวตามรอยศิลปิน สู่ประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงศิลปะระดับนานาชาติ พร้อมเชิญชวน นักท่องเที่ยว มาสัมผัส งานของศิลปินกว่า 60 คน ทั่วโลก ในพื้นที่จัดแสดง ณ จังหวัดภูเก็ต โดยงานจะมีถึง เมษายน 2569


     นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้ว่าการ ททท. เดินทางเข้าร่วมชมการจัดงาน Thailand Biennale จังหวัดภูเก็ต ณ สุโขสปา อำเภอเมืองภูเก็ต โดยคุณอัญชลี วานิชเทพบุตร นายกสมาคมศิลป์ภูเก็ต ให้การต้อนรับ  เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2568


     งาน Thailand Biennale จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม พร้อมผลักดันภูเก็ตให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้ากับศิลปะร่วมสมัยในระดับสากล ในปีนี้นำเสนอผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินไทยและนานาชาติหลากหลายแขนง ภายใต้แนวคิดที่สะท้อนอัตลักษณ์ วิถีชีวิต และมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดภูเก็ต ผ่านการจัดแสดงตามสถานที่สำคัญและชุมชนต่างๆ ทั่วเมือง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวเดินทาง “ตามรอยศิลปิน” และสัมผัสภูเก็ตในมุมมองใหม่


     การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนบทบาทของศิลปะในการสร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมและเสริมความหลากหลายของประสบการณ์ท่องเที่ยวไทย โดย ททท. มุ่งสนับสนุนกิจกรรมศิลปะเชิงพื้นที่ (Place-based Art) เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวคุณภาพ กระจายรายได้สู่ชุมชน และส่งเสริมความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว


      ททท. เชื่อมั่นว่า Thailand Biennale Phuket จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะ “ศูนย์กลางศิลปะร่วมสมัยแห่งเอเชีย” และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในศิลปะ วัฒนธรรม และประสบการณ์สร้างสรรค์จากทั่วโลก

#ThailandBiennalePhuket

#ThailandBiennale2025

#AmazingThailand

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมทัพทีมบรรเทาฯ-สังคมสงเคราะห์ ล่องใต้เข้าพื้นที่น้ำท่วม เร่งส่งต่อธารน้ำใจ สู้มหาอุทกภัยภาคใต้”

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมทัพทีมบรรเทาฯ-สังคมสงเคราะห์ ล่องใต้เข้าพื้นที่น้ำท่วม 

เร่งส่งต่อธารน้ำใจ สู้มหาอุทกภัยภาคใต้” 

ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกรถเทรเลอร์ และรถบรรทุกมูลนิธิฯ 

บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยจังหวัดสงขลา พัทลุง และจังหวัดอื่นๆ ต่อเนื่อง

   เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ พร้อมด้วย คณะกรรมการมูลนิธิฯ ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ในหลายจังหวัด มอบหมายนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ เร่งกระจายทีมบรรเทาสาธารณภัย และทีมสังคมสงเคราะห์ ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคที่ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาค บรรทุกรถเทรลเลอร์ พร้อมรถบรรทุกมูลนิธิฯ ออกเดินทางจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชยมุ่งสู่ภาคใต้ต่อเนื่อง เพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ในทันที โดยมี สมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมแจกจ่าย

     นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และแผนกบรรเทาสาธารณภัย  (คาราวานป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจ สาย 2) ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกรถเทรลเลอร์ และรถบรรทุกมูลนิธิฯ ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ ตำบลลำปำ และตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง, ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน รวมจำนวน 1,000 ชุด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ติดชายทะเล และยังคงประสบอุทกภัยในขณะนี้ โดยมี พัทลุงการกุศลมูลนิธิ (ซ่งเต็กเซี่ยงตึ๊ง) เป็นผู้ประสานงาน ร่วมแจกจ่าย รวมทั้งนำทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และจิตอาสาจากโรงเรียนเทศบาลจุ่งฮั่ว พัทลุง ร่วมแพ็กถุงยังชีพ

     สำหรับการแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่จังหวัดสงขลา นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมสังคมสงเคราะห์ พร้อมทีมบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปฏิบัติการ  (คาราวานป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจ สาย 1) ได้ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกรถเทรลเลอร์ 4 คัน ลงพื้นที่ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยได้เร่งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ อาทิ ตำบลหาดใหญ่ ตำบลบ้านไร่ ตำบลควนลัง ตำบลระโนด จังหวัดสงขลา แล้วกว่า 2,900 ชุด

     โดยขณะนี้ คาราวานป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจ ทั้ง 2 สาย ยังคงลุยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป  อัปเดตข่าวสาร กิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

     นับตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ส่งทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมอุปกรณ์ตอบโต้ภัยพิบัติ โรงครัวเคลื่อนที่ ถุงยังชีพฉุกเฉินและเสื้อชูชีพ น้ำดื่ม ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว ลงพื้นที่หาดใหญ่หาดใหญ่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ทันที ทั้งการอพยพทั้งประชาชน และสัตว์ ออกพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลต่างๆ และเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ โดยมูลนิธิฯ ตั้งกองอำนวยการฯ ประสานงานรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือ และจัดตั้งโรงครัวเคลื่อนที่ประกอบอาหารปรุงสุกบรรจุกล่องออกแจกจ่ายพร้อมน้ำดื่ม พร้อมนำถุงยังชีพฉุกเฉินบรรจุสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นและเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สละแรงกาย แรงใจ  สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ  ทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป

     สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ แผนกบริจาคสัมพันธ์  **  การช่วยเหลือมูลนิธิฯ จะไม่มีการเรียกค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตั้งอยู่ที่พลับพลาไชย ตรงเยาวราช ไม่มีสาขาที่ใด และไม่มีนโยบายส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเดินเรี่ยไรตามบ้านหรือสถานที่อื่นๆ กรุณาอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง ยกเว้นจะมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไปรับบริจาคเท่านั้น **

.## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

เอกนิติ วางเป้าหมายปี 69 มุ่งขยายงานเพิ่ม

เอกนิติ วางเป้าหมายปี 69 มุ่งขยายงานเพิ่ม 

     บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด บริษัทกฎหมายอินเตอร์ชั้นนำ ได้มุ่งขยายงานด้านกฎหมายมากขึ้นมากกว่าปี 68 เพื่อรองรับฐานผู้ใช้บริการที่มากขึ้น

     นางสาวณัฏฐิณิชา ไกรรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด เปิดเผยว่า “ สำหรับในปี 2568 เอกนิติ มีกลุ่มงานแบ่งออกเป็น กลุ่มคดีหลักหรือคดีทั่วไป นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคดีซื้อหนี้นาโนไฟแนนซ์จากบริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด(มหาชน) และยังมี การบังคับคดีจากบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด(มหาชน) โดยเฉพาะกลุ่มคดีหลักหรือคดีทั่วไป ในปี 2568 เรามีผู้อุปการะคุณให้ความไว้วางใจกับเอกนิติ มอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินงานด้านอรรถคดีนับร้อยคดี ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ต้องขอกราบขอบพระคุณผู้มีอุปการะคุณทุกๆท่านที่ให้ความไว้วางใจกับเอกนิติด้วยดีเสมอมา เรายังคงมุ่งมั่นในการให้บริการงานด้านกฎหมายและอรรถคดีด้วยความซื่อสัตย์แห่งวิชาชีพนักกฎหมาย สำหรับปี 69 เอกนิติตั้งเป้าหมายในคดีหลักหรือคดีทั่วไปให้ได้มากกว่าในปี 68 นอกจากงานหนี้นาโนไฟแนนซ์ การบังคับคดี ยังวางเป้าหมายงานด้านบริหารสินทรัพย์ รวมถึงงานออดิตกลุ่มบริษัทมหาชน หรือ อดิต กลต.

     ด้านนางสาวณัฐกานต์ สิทธิโชติเดชาสกุล ผู้บริหารบริษัทเอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับสายงานด้านกลุ่มหนี้นาโนไฟแนนซ์ ในปี 2569 เอกนิติมีเป้าหมายที่จะประมูลหนี้ที่มีหลักประกันเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมในกลุ่มหนีั ส่วนการบังคับคดีนั้น เราก็มุ่งมั่นดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจะเพิ่มจำนวนความต้องการของคู่สัญญาให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มการสืบทรัพย์ให้ครอบคลุม การยื่นฟ้อง การยื่นบังคับคดี ให้รวดเร็วเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้มีอุปการะคุณทุกๆบริษสูงสุดกับผู้มีอุปการะคุณทุกๆบริษัทฯ ที่มาใช้บริการกับเอกนิติ

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568

CP LAND จาก ‘แบรนด์ผู้ท้าชิง’ ก้าวสู่ ‘แบรนด์เจ้าตลาด’ ติด Top 10 Brand Powerful Score

CP LAND จาก ‘แบรนด์ผู้ท้าชิง’ ก้าวสู่ ‘แบรนด์เจ้าตลาด’ 

ติด Top 10 Brand Powerful Score

     บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย สร้างก้าวสำคัญด้วยการไต่ระดับจาก “แบรนด์ผู้ท้าชิง” สู่กลุ่ม “แบรนด์เจ้าตลาด” (Market Leader Brand) ในงาน Terra Hint Brand Series 2025 พร้อมติด Top 10 Brand Powerful Score จากการสำรวจผู้บริโภคออนไลน์กว่า 2,000 คนทั่วประเทศ สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในหลายด้าน ทั้งมาตรฐานโครงสร้าง การออกแบบเพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะในโครงการ low-rise และการดูแลหลังการขายที่ผู้บริโภครับรู้ว่าจริงใจและรับผิดชอบ มากขึ้นอย่างเด่นชัดด้วยระยะเวลา รับประกันถึง 10 ปี

    คุณศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการบริหาร กลุ่มงานการตลาดและสื่อสารองค์กร CP LAND กล่าวถึง กล่าวถึงสิ่งสำคัญที่ทำให้ CP LAND ขยับจากกลุ่มแบรนด์อสังหาฯ “แบรนด์ผู้ท้าชิง” เข้าสู่กลุ่ม “แบรนด์เจ้าตลาด” ด้วยกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสาร “จริงใจและรับผิดชอบ”  ที่ตรงใจผู้บริโภคอย่างชัดเจน โดยในปีที่ผ่านมา ทีมงานฯได้พยายามเน้นจุดเด่นของบ้านซีพีแลนด์ให้ตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ ปลอดภัย-โปร่งใส, คุณภาพและงบที่เอื้อมถึง พร้อมคุณภาพและความยั่งยืน 

1. ปลอดภัยและโปร่งใส ในยุคที่คนกลัวโครงสร้างมากกว่าราคา

หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว งานวิจัยชี้ว่า “โครงสร้างและคุณภาพการก่อสร้าง” กลายเป็นปัจจัยอันดับ 1 ในการเลือกบ้าน และผู้บริโภคให้รางวัลกับแบรนด์ที่สื่อสารเร็ว ชัด และตรงไปตรงมาเรื่องมาตรฐานอาคาร  

CP LAND วางจุดยืนชัดในเรื่อง

• มาตรฐานโครงสร้างและวัสดุที่ตรวจสอบได้ การออกแบบเน้นความปลอดภัย

• การดูแลหลังการขายและการรับผิดชอบต่อผู้อยู่อาศัยอย่างใส่ใจ *ด้วยการรับประกัน 10 ปี

2. คุณภาพที่ “เอื้อมถึงได้” ตรงกับงบส่วนใหญ่ของคนไทย

งานวิจัยพบว่า 78% ของผู้ซื้อมองหาโครงการที่ “คุ้มค่า–ไว้ใจได้” มากกว่าความหรูฟุ่มเฟือยอย่างเดียว 

ทำให้ โครงการ CP LAND สร้างความแตกต่างได้ชัดเจน ประกอบด้วย

• โฟกัสโครงการที่อยู่อาศัยและมิกซ์ยูสในระดับราคาที่เข้าถึงได้

• ให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่าในระยะยาว” ทั้งค่าใช้จ่ายดูแลบ้านและคุณภาพชีวิต

• เดินตามวิสัยทัศน์ “Accessible Communities for Life – คุณภาพเพื่อทุกชีวิต” ไม่ได้เน้นเฉพาะตลาดบน

3. ด้านความคุณภาพเพื่อทุกชีวิตและความยั่งยืน Wellbeing & Sustainable Living ผู้ตอบแบบสอบถามนิยาม “Wellness” ว่า คุณภาพชีวิตที่ดี สภาพแวดล้อมดี ความปลอดภัย พื้นที่สีเขียว ความสมดุลของชีวิต และความสัมพันธ์ในครอบครัว/ชุมชน  

     คุณศศินันท์ กล่าวปิดท้ายว่า ทั้งหมดนี้ทำให้ ‘บ้านซีพีแลนด์’ กำลังกลายเป็นคำตอบหลักของผู้ซื้อบ้านยุคปัจจุบันในสายตาผู้บริโภคทั่วประเทศ ด้วยโครงสร้างที่เชื่อมั่นได้ + คุณภาพที่เข้าถึงได้ + ชีวิตแบบ Wellbeing ที่จับต้องได้ 

#CPLAND #AccessibleCommunitiesForLife #คุณภาพเพื่อทุกชีวิต #TerraBKK #TerraHint2025 



"กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" รวมพลังพรรคการเมือง สาน "การเมืองใหม่" เพื่อประชาชน

"กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" รวมพลังพรรคการเมือง

สาน "การเมืองใหม่" เพื่อประชาชน

     การรวมตัวครั้งประวัติศาสตร์ จุดเปลี่ยนการเมืองใหม่ โดย "กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" เป็นการรวมพลังครั้งใหญ่ของพรรคการเมืองกว่า 10 พรรค ที่ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ "การเมืองใหม่เพื่อประชาชน" ลั่น "เสียงประชาชนซื้อไม่ได้"

    ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาในแวดวงการเมืองไทยได้เกิดขึ้นในการจัดงานเสวนา "จิ๊กซอว์ความตั้งใจของพรรคเล็กที่ใหญ่กว่า..." ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568


     ​จากการเสวนาดังกล่าว กลุ่มพรรคการเมืองได้ประกาศรวมตัวจัดตั้งเป็น "กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการผนึกกำลังเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ และกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายที่มุ่งเน้นผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างแท้จริง โดยกลุ่มฯ ได้ประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมปล่อยให้ปัญหาบ้านเมืองดำเนินไปโดยปราศจากการแก้ไขจากฝ่ายผู้แทนประชาชน


    การรวมตัวครั้งนี้ถูกยกให้เป็น "จุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญ" ที่รวบรวมพรรคการเมืองที่มีจุดยืนชัดเจน และเป็นตัวแทนของประชาชนจากหลากหลายสาขาอาชีพเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีพรรคการเมืองที่ร่วมก่อตั้งกลุ่มมากกว่า 10 พรรค อาทิ ​พรรครวมพลังประชาชน, ​พรรคไทยสมาร์ท, ​พรรคพร้อม, ​พรรคกรีน, ​พรรคไทยก้าวหน้า, ​พรรคประชาไทย, ​พรรคพลังประชาธิปไตย, ​พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย, ​พรรครวมใจไทย และพรรคอื่น ๆ อีกหลายพรรค


     โดย "กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" ได้กำหนดเป้าหมายสำคัญคือการ ผลักดันนโยบายร่วมกัน และ ขับเคลื่อนการเมืองใหม่ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทุกคน โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของประชาชน ด้วยการประกาศถ้อยคำที่ทรงพลังว่า "เสียงของประชาชนไม่สามารถจัดซื้อได้" เพราะประชาชนทุกคนมีศักดิ์ศรีที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและประเทศชาติ

​      และที่ประชุมมีมติเลือก ดร.อรุณ คงเจริญ เป็น ประธานกลุ่ม และ นายวัฒนา จำปาดิบรัตนกุล เป็น โฆษกประจำกลุ่ม เพื่อทำหน้าที่เป็นแกนนำในการประสานงาน สื่อสารทิศทางการทำงาน และขับเคลื่อนวาระสำคัญของกลุ่ม "จิ๊กซอสองเก้า" ให้สาธารณชนรับทราบต่อไป

#กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า

#การเมืองใหม่

#พรรคการเมือง


วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

จุฬา เปิดศูนย์การศึกษาและวิจัยด้านทันตกรรม หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

จุฬาฯ พลิกโฉมวงการทันตกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

เปิดศูนย์การศึกษาและวิจัยด้านทันตกรรม หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาทันตกรรมรากเทียมและทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (หลักสูตรนานาชาติ)

     ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานแถลงข่าวเปิดศูนย์การศึกษาและวิจัยด้านทันตกรรม หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาทันตกรรมรากเทียมและทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (หลักสูตรนานาชาติ) โดยมี รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. ใจแจ่ม สุวรรณเวลา ประธานหลักสูตรฯ และผู้อำนวยการคลินิก กล่าวต้อนรับ และกล่าวรายงานแนะนำหลักสูตรหันตกรรมรากเทียม และทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (หลักสูตรนานาชาติ) พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ดร.พรชัย จันศิษย์ยานนท์ คณบดีทันตแพทยศาสตร กล่าวถึงนโยบายของคณะ ณ คลินิกทันตกรรมรากเทียมและทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (CUIE Clinic) อาคารพรีคลินิก ชั้น 1 คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2568


     โดยภายในงาน มีการกล่าวรายละเอียดการดำเนินงานของหลักสูตรโดย Associate Professor Dr. Nikos Mattheos ประธานฝ่ายวิชาการ และ Associate Professor Martin Schittek Janda ศาสตราจารย์รับเชิญจาก Malmo University, Sweden รวมทั้งมีกิจกรรมให้เข้าร่วมทดสอบใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย สำหรับงานทันตกรรม 4 จุด ได้แก่
1. One-Day Crown: The Complete Workflow
(ระบบงานดิจิทัลสำหรับการทำครอบฟันเสร็จได้ภายในวันเดียว)
2. Computer Assisted Implant Surgery: Implant Surgery with Real-Time Navigation
(การผ่าตัดรากฟันเทียมโดยอาศัยระบบคอมพิวเตอร์: การฝังรากเทียมด้วยระบบนำร่อง)
3. Orofacial Esthetics and Smile Design. Face Scan, and Digital Design of a New Smile (การสแกนใบหน้า และการออกแบบรอยยิ้ม
4. Advanced Applications of intraoral Scanner in Implantology and Esthetic Dentistry: Enabling patient's comfort and accuracy (การสแกนในช่องปาก)



     คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานเปิดตัวหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาทันตกรรมรากเทียมและทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (หลักสูตรนานาชาติ) -Chulalongkorn University Implants and Esthetics Dentistry (CUIE) พร้อมเปิดพื้นที่ CUIE Clinic คลินิกทันตกรรมดิจิทัลที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ณ คลินิกทันตกรรมรากเทียมและทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (CUIE Clinic) อาคารพรีคลินิก ชั้น 1 คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อประกาศก้าวสำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการพัฒนาการเรียนการสอนและการรักษาทางทันตกรรมยุคใหม่ในหลักสูตรดังกล่าวที่ผสานเทคโนโลยีดิจิทัล ทันตกรรมรากเทียมขั้นสูง และความงามเชิงโครงสร้างใบหน้า (Functional-Esthetics) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการระดับสากลและสร้างบุคลากรเฉพาะทางคุณภาพสูงให้แก่วงการทันตแพทย์ไทยและนานาชาติ



     ศูนย์การศึกษาวิจัยด้านทันตกรรมรากเทียม และทันตตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (นานาชาติ) (Chulalongkorn University Implant and Esthetic Dentistry International Program Clinic - CUIE) เป็นศูนย์แห่งแรกของประเทศไทยที่รวบรวมการเรียนการสอนระดับนานาชาติ คลินิกดิจิทัลทันสมัย และการวิจัยระดับสากลไว้ในที่เดียว ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเข้ามาเปลี่ยนวิถีการดูแลสุขภาพอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะด้านทันตกรรมที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสแกนใบหน้า ปัญญาประดิษฐ์เพื่อออกแบบรอยยิ้ม (AI Smile Design) ไปจนถึงหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ป่วย ทั้งด้านความแม่นยำ ความรวดเร็ว และคุณภาพการรักษาที่เหนือกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีทักษะขั้นสูงและระบบสนับสนุนที่ครบวงจร ซึ่งหลักสูตรทันตกรรมรากเทียม และทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม (CUIE) คือคำตอบของโจทย์นี้

      ศูนย์ฯ แห่งนี้พัฒนามาเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ปี ประกอบด้วย หลักสูตรปริญญาโทนานาชาติ สาขาหันตกรรมรากเทียม และทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงาม คลินิกทันตกรรมดิจิทัลครบวงจร ศูนย์วิจัยด้านเทคโนโลยีทันตกรรมขั้นสูง โดยคลินิกได้เปิดให้บริการเบื้องต้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

     คลินิก CUIE เป็นศูนย์ทันตกรรมดิจิทัลที่ก้าวล้ำที่สุดในประเทศไทย ถูกออกแบบให้เป็นหน่วยทันตกรรมเฉพาะทางครบวงจรที่ผสานเทคโนโลยี ทักษะ และนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ลดเวลาและค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย และยกระดับมาตรฐานการรักษาในประเทศไทยให้เทียบเท่าสากล โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่ที่การให้บริการทางด้านทันตกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงมีอุปกรณ์
เครื่องมือดิจิทัลที่ครบวงจร นอกจากนี้ยังครอบคลุมการให้บริการทันตกรรมที่สำคัญ เช่น
- Digital Workflow เต็มรูปแบบ ตั้งแต่สแกนช่องปาก ออกแบบ ไปจนถึงผลิตงานทันตกรรมด้วยระบบ CAD/CAM
- ห้องผ่าตัด Live Surgery สำหรับสอนและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการผ่าตัดรากเทียมขั้นสูง
- ระบบสแกน CT/ Intraoral / Extraoral / Face Scan เชื่อมกับซอฟต์แวร์ AI สำหรับวางแผนการรักษา
- การผ่าตัดรากเทียมด้วยระบบ Real-time Navigation ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำอย่างสูง
- เทคโนโลยี Face Scan และ Digital Smile Design เพื่ออออกแบบรอยยิ้มที่สวยงามและกลมกลืนกับใบหน้าแต่ละบุคคล

    รศ.ทญ.ดร.ใจแจ่ม สุวรรณเวลา ผู้อำนวยการหลักสูตรฯและผู้อำนวยการคลินิก CUIE กล่าวว่า คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ให้บริการผู้ป่วยเฉลี่ยปีละกว่า 300,000 ราย ซึ่งไม่เพียงเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชน แต่ยังเป็นสถานที่แสวงหาประสบการณ์ทางด้านการปฏิบัติที่สำคัญของทันตแพทย์หลังปริญญา ด้วยองค์ความรู้ดิจิทัลและเทคโนโลยีทันตกรรมขั้นสูง โดยมีเครื่อข่ายคณาจารย์นานาชาติหลากหลายสาขาร่วมกันพัฒนาการเรียนการสอนและบริการให้ครอบคลุมมาตรฐานระดับโลก
     ด้าน ศ.ทญ.ดร.ฑัณฑริรา พรทวีทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ CUIE กล่าวเสริมว่า CUIE เป็นแหล่งรวมของนักวิจัยระดับแนวหน้าระดับโลกด้านทันตกรรมดิจิทัล ซึ่งช่วยให้นักศึกษาปริญญาโทของเรามีโอกาสเรียนรู้และร่วมพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ ทั้งการออกแบบ ทดลอง และประเมินเครื่องมือ หรือแนวทางการรักษาใหม่ที่อาจได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติในอนาคต
    Assoc. Prof. Dr. Nikos Mattheos ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการของ CUIE กล่าวว่า การเรียนรู้ในยุคปัจจุบันไม่ใช่รับฟังเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างประสบการณ์จริงผ่านสถานการณ์จำลอง การคิดวิเคราะห์ การอภิปรายกลุ่ม และการฝึกทักษะขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง CUIE ได้ออกแบบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบรองรับทั้งหมดนี้ นอกจากนี้ศูนย์ CUIE ยังมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าฝึกงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง

       คลินิก CUIE ยังให้บริการประชาชน ด้านรากเทียม ครอบฟันดิจิทัล และทันตกรรมเพื่อความสวยงาม พร้อมโครงการพิเศษเพื่อ
สนับสนุนการศึกษาของทันตแพทย์หลังปริญญาและช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า ได้แก่
1. โครงการ "วีเนียร์ฟันหน้า" (Anterior Veneers) ราคา 3,500 บาทต่อซี่ (จำนวนจำกัด  200 ซี่)
2. โครงการ "Digital Crown in One Day" ราคา 5,000 บาทต่อซี่ (จำนวนจำกัด 20 ซี่)
     คลินิก CUIE ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารพรีคลินิก คณะทันตแพพยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดทำการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.
     สอบถามข้อมูลหรือนัดหมาย โทร. 0-2218-8662
เว็บไซต์: https://www.implantestheticschula.com

สมาคมส่งเสริมการศึกษาในถิ่นกันดารในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นำคณะกรรมการไปสงเคราะห์เด็กนักเรียน เขตอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

สมาคมส่งเสริมการศึกษาในถิ่นกันดารในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  นำคณะกรรมการไปสงเคราะห์เด็กนักเรียน เขตอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพ...