วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ชวนชิม สุดยอด “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ชวนชิม สุดยอด “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก

     กลับมาอีกครั้งกับสุดยอดรสชาติดีที่สุดของ “ปูขน” ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่ห้องอาหารจีนหยก โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์


     โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ขอเชิญชวนให้คุณมาลิ้มลอง “ปูขนฮ่องกงนึ่งใบชา” กลิ่นหอมละมุน เนื้อปูแน่นๆ ทานพร้อมน้ำจิ้มผสมขิงซึ่งเป็นสูตรเฉพาะ รับประกันความอร่อย เพียงตัวละ 1,200 บาท เท่านั้น พร้อมเมนูตามสั่งอื่นๆ อีกมากมาย


     ห้องอาหารจีนหยก  เปิดบริการมื้อกลางวันเวลา 11.30  – 14.30 น. และมื้อเย็น 18.00 – 22.00 น. 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองโต๊ะล่วงหน้าโทร.0-2279-4567 ต่อ 8429 ไลน์ : @theemeraldhotel และ www.facebook.com/yoktheemerald 


"สารวัตรแรมโบ้" เปิดร้านอาหาร "เฮือนอิงภู แอนด์ คาเฟ่ " ใช้ชีวิตพอเพียงหลังเกษียณวงการสีกากี

"สารวัตรแรมโบ้" เปิดร้านอาหาร "เฮือนอิงภู แอนด์ คาเฟ่ "

ใช้ชีวิตพอเพียงหลังเกษียณวงการสีกากี

และยังรับใช้สังคม เป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศไทย



      ห่างหายไปนานสำหรับ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" จนมาเป็นข่าวการทวงแผ่นดินคืนจากเขมรร่วมกับนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้หนีภัยเขมรแดง มีคนไทยในพื้นที่ต้องเสียพื้นที่นาให้เขมรเหล่านี้เข้ามายึดครองเป็นของตนเองและพวกพ้องที่อพยพกันเข้ามาเกือบ 40 ปีมาแล้ว มันนานจนเขมรเขาขี้โกงคิดว่เป็นแผ่นดินของพวกมัน แล้วมันถึงเวลาแล้วที่จะเอาพื้นแผ่นดินของไทยกลับคืนมา


      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" หลายคนคงมีภาพจำกับนายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ได้ดี เพราะท่านเป็นอดีตตำรวจกองปราบขาลุุยผู้โด่งดังในอดีต กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ที่ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ พร้อมชน ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เน้น "ความถูกต้อง ยุติธรรม" เป็นหลักการ 
      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช มักลุยบุกจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีต่าง ๆมากมายแบบไม่สนหน้าหน้าอินทร์หน้าพรหม  บางครั้งก็บุกเดี่ยวหรือมีลูกน้องคู่ใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า “สารวัตรแรมโบ้” เขาคือสายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง  มีต้นแบบจากจ่าตุ้มผู้เป็นปู่ และหมวดสวัสดิ์ ผู้เป็นพ่อที่เป็นตำรวจสันติบาล เป็นนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นเดียวกับ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ "ผู้การแต้ม"  เจ้าของฉายา "มือปราบหูดำ"


     ส่วนเส้นทางรับราชการ "สารวัตรแรมโบ้" อยู่กองปราบ เกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ผู้การบุญชู วังกานนท์  ผู้การรุ่งโรจน์ ยมกุล  ผู้การรังสิต ญาโณทัย  ผู้การคำนึง ธรรมเกษม อยู่แผนก 3 กอง 2,  คอมมานโด  เคยเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล หน่วยสยบริปูสะท้านคนแรกของกองปราบ ติดยศ พ.ต.ต. ขึ้นสารวัตรสอบสวนที่พยุหะคีรี กลับมาอยู่นครบาลเป็น สว.ป.สน.บางกอกน้อย สไลด์ เป็น สว.ปปป. เดือนหนึ่ง  แล้วไปเป็น สว.อาวุธปืน กองทะเบียน กรมตำรวจ  ทำเรื่องรื้อการทุจริตทำใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน หลังจากนั้น เป็น รอง ผกก.อก.กองบินตำรวจ, รอง ผกก. สรรพาวุธ, รอง ผกก.อก. บช.ปส. เป็นได้ 2 เดือนกว่า ก็มาเป็น รอง ผกก.ปพ.ภาค 3 อยู่ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ภาค 3 เป็น รอง ผกก. นานมาก น่าจะ 15-16 ปี แล้วก็เป็น ผกก.สืบสวนจังหวัดอำนาจเจริญ 4 ปีก่อนจะเกษียณอายุปี 2561”


     "สารวัตรแรโบ้" อยู่มาหลายสังกัด ทั้งกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธร ทำให้มีผลงานมากมายเป็นที่ประจักษ์ แต่เจ้านายไม่ค่อยรักมักมองข้ามหัวเสมอ ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นในความดีที่เขาทำ แต่สายเลือดตำรวจในตัวของสารวัตรแรมโบ้ยังเข้มข้นไม่มีวันจาง แต่ก็มีความภูมิใจกับผลงานในหลายคดี อาทิ บุกจับ 3 ผู้ก่อการร้ายสากลที่วางระเบิดสถานทูตกลางกรุง พร้อมของกลางเป็นระเบิด TNT, จับกลุ่มเขมรแดงเป็นขบวนการค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ตาพระยา พร้อมอาวุธปืนกว่า 100 กระบอก งานนี้มีการแย่งชิงเงินล่อซื้อ และต่อสู้ดวลปืนกันสนั่นป่าชายแดนไทย – เขมร ทำให้มีทั้งจับเป็นและจับตายในคดีดังกล่าว,


คดียิงสาวงามเทพีหาบเงินหาบทองตาย พร้อมพี่ชายที่บาดเจ็บสาหัส คดีนี้ผ่านมาเกือบ 20 ปี ใกล้หมดอายุความ เจอหลานคนตายมาขอให้ช่วยคลี่คลายคดี สุดท้ายจับคนร้ายได้ก่อนคดีหมดอายุความไม่กี่วัน, คดีเรียกค่าไถ่สังหารเสี่ย 100 ล้านและเลขาฯ แล้วโยนศพทิ้งเหวสุวัต  คนร้ายหนีลอยนวลไปได้นับ 10 ปี จนกระทั่งมาชุบตัวเป็นช่างผมดังในกรุงเทพฯ พอสารวัตรแรมโบ้สืบรู้ ก็ส่งลูกน้องเข้าไปทำทีเป็นลูกค้ามาตัดผมเพื่อหาข่าว จนมั่นใจว่าเป็นคนร้ายที่หนีคดีมายาวนาน จึงบุกรวบคากรรไกรในร้านตัดผม, คดีจ้างวานฆ่าลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เหตุเกิดจากขัดแย้งผลประโยชน์ในวัดบ้านไร่ คดีนี้คนร้ายไม่ใช่อื่นไกลเป็นคนสนิทใกล้ชิดหลวงพ่อนั่นเอง, คดีคนไหหลำที่ก่อคดีมาอย่างโชกโชน ทางการจีนขอให้ตำรวจไทยช่วยจับกุมและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และยังมีคดีจับคนร้ายปล้นธนาคารกว่า 20 แห่ง  ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างผลงานเท่านั้น


     สำหรับคดีที่สารวัตรแรมโบ้ประทับใจที่สุดและไม่มีวันลืมก็คือ การจับคนร้ายตัวจริงได้ในคดีจับแพะฆ่าสาวอะโกโก้ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ที่ตำรวจท้องที่จับผิดตัว น่าจะเป็นการจับแพะคดีแรกๆ ในประเทศไทย แต่เขาก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตัวจริงมาลงโทษได้ทำให้ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นมลทิน

     สารวัตรบอกถึงวิธีการคลี่คลายคดีต่างๆ ว่า นอกจากจะต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณ ความรู้ความสามารถ และทักษะในการสืบสวนสอบสวนแล้ว เรื่องไสยศาสตร์ก็มีส่วนช่วยในการปิดคดีได้ไม่น้อย เขาจะเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้วหาเศษดิน เส้นผม หรือรอยเลือด จุดธูปตั้งจิตอธิษฐานถึงดวงวิญญาณที่รอทวงความยุติธรรมว่า "ให้ตามจับคนร้ายมาชดใช้กรรมให้ได้" เพื่อวิญญาณเหล่านั้นจะได้ไปสู่สุคติ ต่อมาไม่ช้าไม่นานก็จะมีงานเข้าและสามารถปิดคดีได้ในเร็ววัน


     ตลอดระยะเวลาหลายปี สมัยที่ทำงานอยู่กองปราบฯ เขามีลูกน้องคู่ใจที่สารวัตรแรมโบ้ยกย่องให้เป็นอาจารย์ เนื่องจากเป็นตำรวจชั้นประทวนฝีมือดีและมีชื่อชั้นในการสืบสวนปราบปราม จนเป็นตำนานหนึ่งของกองปราบ เพราะช่วยทำงานคลี่คลายคดีให้กองปราบมาเยอะ เขาคนนั้นคือ ร.ต.ต.กฤตสัณห์ จันทร์กระจ่าง หรือ "ดาบจ๊อด กองปราบ" อดีตนายก อบต.บ้านอิฐ จังหวัดอ่างทอง ที่ถูกคนร้ายยิงคาศาลาวัด ระหว่างมาร่วมงานศพสมาชิก อบต. จนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายวัยชรามารับโทษได้ เนื่องจากนายประทุม อยู่ประเสริฐ คนร้ายที่มีหมายจับเพียงคนเดียวเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว และข้อสำคัญ ดาบจ๊อดและพวก 3 ศพ ที่เสียชีวิตวันนั้น ในศพทั้ง 3 ศพมีกระสุนคนละขนาด ในข้อเท็จจริงคดีดาบจ๊อด ยังมีคนร้ายที่ร่วมกันกระทำผิดอีกหลายคนที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้หมด เป็นทีมงานสังหารทีมใหญ่ ทำงานกันหลายคน

     นอกจากเรื่องดาบจ๊อดกองปราบแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคดีคือ คดีฆ่าโหด พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รอง ผบก.น.9 แม้จะผ่านมาร่วม 20 ปีแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจับตัวกลุ่มคนร้ายได้ เขาบอกว่าคดีนี้มันเป็นการหยามเกียรติตำรวจจนเกินไป ในฐานะที่เขาก็เป็นตำรวจคนหนึ่งเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดมากและอยากให้ลากคอคนร้ายมารับโทษให้ได้
      ทั้ง 2 คดี ถ้าเกิดมีพลเมืองดีท่านใดสามารถนำชี้จับตัวคนร้ายได้หรือมาเป็นพยานสำคัญนำไปสู่การออกหมายจับเพื่อจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ในคดี ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ สารวัตรแรมโบ้ยินดีมอบรางวัลนำจับคดีละ 100,000 บาท แต่มีข้อแม้ต้องเอาข้อมูลของคนร้ายในคดีนี้มามอบให้ที่ผมเท่านั้น และให้ผมสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ตามกฏหมาย  โดยมีผมเป็นผู้จับกุมร่วมกับตำรวจในราชการอาจจะเป็นตำรวจชั้นประทวนใดคนหนึ่งก็ได้ ทั้ง 2 คดีสำคัญๆ น่าจะใกล้หมดอายุความไม่เกินปี พ.ศ 2571-2572  ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศทุกนายให้ช่วยกันทุ่มเทสรรพกำลังความรู้ความสามารถให้จับกุมคนร้ายสำคัญให้ได้ทั้ง 2 คดีพร้อมกัน ก่อนที่จะขาดอายุความ


     "สารวัตรแรมโบ้" ผู้มีสีกากีในสายเลือด ยังแสดงความห่วงใยถึงตำรวจรุ่นหลัง โดยฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการพิจารณาแต่งตั้งว่า "ควรยึดระบบอาวุโสมากกว่า 50%" เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงานจริง และ ก.ตร. เอง ก็ควรทำให้ได้อย่างที่พูด ไม่ใช่ดีแต่ขายฝันในช่วงหาเสียง
     “สารวัตรแรมโบ้” ยังเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพว่า ที่ยังดูแข็งแรงไม่ทรุดโทรมไปตามวัยเพราะไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ และยังออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ  เลือกทานอาหารที่เป็นยา  ทานอาหารที่มีประโยชน์  สวดมนต์แผ่เมตตาทุกวัน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้มีจิตใจที่แจ่มใสอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง


      ปัจจุบัน พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่ "สารวัตรแรมโบ้" มือปราบสีกากี แม้จะเกษียณมาตั้งแต่ปี 2561 แต่เขายังนึกถึงวงการสีกากีอยู่เสมอ ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ มีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ควบคู่กับ ความรู้และคุณธรรม ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิต และการบริหารจัดการธุรกิจ ตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกับนางฐิติณ์ชญา (ภรรยา) ทั้งซื้อขายที่ดิน ทำโรงงานผลิตอาหารเสริม สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โรงงานผลิตน้ำดื่มกลิ่นใบเตย โรงงานผลิตน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ และยังเป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศ ไทยด้วย


      รวมทั้ง ร้านเฮือนอิงภู เป็นร้านอาหารคุณภาพ มีมาตราฐาน ด้วยเมนูที่หลากหลาย แต่ที่สำคัญคืออาหารสะอาด ถูกหลักอนามัย และอร่อย รับรองท่านทานแล้วจะต้องติดใจ ทานอาหารอร่อย และเป็นกันเองอย่างอบอุ่น ในบรรยากาศเปิดโล่ง สบายๆ ชิวๆ แถมที่นี่ก็ยังมีคาเฟ่ที่สวยงาม ไว้บริการกาแฟและเครื่องดื่มอีกด้วย มาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน         
     ร้านเฮือนอิงภู" เลขที่ 494 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปมาก็สะดวกสบาย "ร้านเฮือนอิงภู" ลงจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ M6 ก็เจอเลย อยู่ทางซ้ายมือ 








ใช้ชีวิตพอเพียงหลังเกษียณวงการสีกากี

เปิดร้านอาหาร "เฮือนอิงภู" แอนด์คาเฟ่
และยังรับใช้สังคม เป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศไทย


      ห่างหายไปนานสำหรับ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" จนมาเป็นข่าวการทวงแผ่นดินคืนจากเขมรร่วมกับนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้หนีภัยเขมรแดง มีคนไทยในพื้นที่ต้องเสียพื้นที่นาให้เขมรเหล่านี้เข้ามายึดครองเป็นของตนเองและพวกพ้องที่อพยพกันเข้ามาเกือบ 40 ปีมาแล้ว มันนานจนเขมรเขาขี้โกงคิดว่เป็นแผ่นดินของพวกมัน แล้วมันถึงเวลาแล้วที่จะเอาพื้นแผ่นดินของไทยกลับคืนมา


      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่รู้จักกันดีในนาม "สารวัตรแรมโบ้" หลายคนคงมีภาพจำกับนายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ได้ดี เพราะท่านเป็นอดีตตำรวจกองปราบขาลุุยผู้โด่งดังในอดีต กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ที่ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ พร้อมชน ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เน้น "ความถูกต้อง ยุติธรรม" เป็นหลักการ 
      พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช มักลุยบุกจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีต่าง ๆมากมายแบบไม่สนหน้าหน้าอินทร์หน้าพรหม  บางครั้งก็บุกเดี่ยวหรือมีลูกน้องคู่ใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า “สารวัตรแรมโบ้” เขาคือสายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง  มีต้นแบบจากจ่าตุ้มผู้เป็นปู่ และหมวดสวัสดิ์ ผู้เป็นพ่อที่เป็นตำรวจสันติบาล เป็นนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นเดียวกับ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ "ผู้การแต้ม"  เจ้าของฉายา "มือปราบหูดำ"


     ส่วนเส้นทางรับราชการ "สารวัตรแรมโบ้" อยู่กองปราบ เกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ผู้การบุญชู วังกานนท์  ผู้การรุ่งโรจน์ ยมกุล  ผู้การรังสิต ญาโณทัย  ผู้การคำนึง ธรรมเกษม อยู่แผนก 3 กอง 2,  คอมมานโด  เคยเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล หน่วยสยบริปูสะท้านคนแรกของกองปราบ ติดยศ พ.ต.ต. ขึ้นสารวัตรสอบสวนที่พยุหะคีรี กลับมาอยู่นครบาลเป็น สว.ป.สน.บางกอกน้อย สไลด์ เป็น สว.ปปป. เดือนหนึ่ง  แล้วไปเป็น สว.อาวุธปืน กองทะเบียน กรมตำรวจ  ทำเรื่องรื้อการทุจริตทำใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน หลังจากนั้น เป็น รอง ผกก.อก.กองบินตำรวจ, รอง ผกก. สรรพาวุธ, รอง ผกก.อก. บช.ปส. เป็นได้ 2 เดือนกว่า ก็มาเป็น รอง ผกก.ปพ.ภาค 3 อยู่ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ภาค 3 เป็น รอง ผกก. นานมาก น่าจะ 15-16 ปี แล้วก็เป็น ผกก.สืบสวนจังหวัดอำนาจเจริญ 4 ปีก่อนจะเกษียณอายุปี 2561”


     "สารวัตรแรโบ้" อยู่มาหลายสังกัด ทั้งกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธร ทำให้มีผลงานมากมายเป็นที่ประจักษ์ แต่เจ้านายไม่ค่อยรักมักมองข้ามหัวเสมอ ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นในความดีที่เขาทำ แต่สายเลือดตำรวจในตัวของสารวัตรแรมโบ้ยังเข้มข้นไม่มีวันจาง แต่ก็มีความภูมิใจกับผลงานในหลายคดี อาทิ บุกจับ 3 ผู้ก่อการร้ายสากลที่วางระเบิดสถานทูตกลางกรุง พร้อมของกลางเป็นระเบิด TNT, จับกลุ่มเขมรแดงเป็นขบวนการค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ตาพระยา พร้อมอาวุธปืนกว่า 100 กระบอก งานนี้มีการแย่งชิงเงินล่อซื้อ และต่อสู้ดวลปืนกันสนั่นป่าชายแดนไทย – เขมร ทำให้มีทั้งจับเป็นและจับตายในคดีดังกล่าว,


คดียิงสาวงามเทพีหาบเงินหาบทองตาย พร้อมพี่ชายที่บาดเจ็บสาหัส คดีนี้ผ่านมาเกือบ 20 ปี ใกล้หมดอายุความ เจอหลานคนตายมาขอให้ช่วยคลี่คลายคดี สุดท้ายจับคนร้ายได้ก่อนคดีหมดอายุความไม่กี่วัน, คดีเรียกค่าไถ่สังหารเสี่ย 100 ล้านและเลขาฯ แล้วโยนศพทิ้งเหวสุวัต  คนร้ายหนีลอยนวลไปได้นับ 10 ปี จนกระทั่งมาชุบตัวเป็นช่างผมดังในกรุงเทพฯ พอสารวัตรแรมโบ้สืบรู้ ก็ส่งลูกน้องเข้าไปทำทีเป็นลูกค้ามาตัดผมเพื่อหาข่าว จนมั่นใจว่าเป็นคนร้ายที่หนีคดีมายาวนาน จึงบุกรวบคากรรไกรในร้านตัดผม, คดีจ้างวานฆ่าลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เหตุเกิดจากขัดแย้งผลประโยชน์ในวัดบ้านไร่ คดีนี้คนร้ายไม่ใช่อื่นไกลเป็นคนสนิทใกล้ชิดหลวงพ่อนั่นเอง, คดีคนไหหลำที่ก่อคดีมาอย่างโชกโชน ทางการจีนขอให้ตำรวจไทยช่วยจับกุมและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และยังมีคดีจับคนร้ายปล้นธนาคารกว่า 20 แห่ง  ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างผลงานเท่านั้น


     สำหรับคดีที่สารวัตรแรมโบ้ประทับใจที่สุดและไม่มีวันลืมก็คือ การจับคนร้ายตัวจริงได้ในคดีจับแพะฆ่าสาวอะโกโก้ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ที่ตำรวจท้องที่จับผิดตัว น่าจะเป็นการจับแพะคดีแรกๆ ในประเทศไทย แต่เขาก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตัวจริงมาลงโทษได้ทำให้ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นมลทิน

     สารวัตรบอกถึงวิธีการคลี่คลายคดีต่างๆ ว่า นอกจากจะต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณ ความรู้ความสามารถ และทักษะในการสืบสวนสอบสวนแล้ว เรื่องไสยศาสตร์ก็มีส่วนช่วยในการปิดคดีได้ไม่น้อย เขาจะเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้วหาเศษดิน เส้นผม หรือรอยเลือด จุดธูปตั้งจิตอธิษฐานถึงดวงวิญญาณที่รอทวงความยุติธรรมว่า "ให้ตามจับคนร้ายมาชดใช้กรรมให้ได้" เพื่อวิญญาณเหล่านั้นจะได้ไปสู่สุคติ ต่อมาไม่ช้าไม่นานก็จะมีงานเข้าและสามารถปิดคดีได้ในเร็ววัน


     ตลอดระยะเวลาหลายปี สมัยที่ทำงานอยู่กองปราบฯ เขามีลูกน้องคู่ใจที่สารวัตรแรมโบ้ยกย่องให้เป็นอาจารย์ เนื่องจากเป็นตำรวจชั้นประทวนฝีมือดีและมีชื่อชั้นในการสืบสวนปราบปราม จนเป็นตำนานหนึ่งของกองปราบ เพราะช่วยทำงานคลี่คลายคดีให้กองปราบมาเยอะ เขาคนนั้นคือ ร.ต.ต.กฤตสัณห์ จันทร์กระจ่าง หรือ "ดาบจ๊อด กองปราบ" อดีตนายก อบต.บ้านอิฐ จังหวัดอ่างทอง ที่ถูกคนร้ายยิงคาศาลาวัด ระหว่างมาร่วมงานศพสมาชิก อบต. จนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายวัยชรามารับโทษได้ เนื่องจากนายประทุม อยู่ประเสริฐ คนร้ายที่มีหมายจับเพียงคนเดียวเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว และข้อสำคัญ ดาบจ๊อดและพวก 3 ศพ ที่เสียชีวิตวันนั้น ในศพทั้ง 3 ศพมีกระสุนคนละขนาด ในข้อเท็จจริงคดีดาบจ๊อด ยังมีคนร้ายที่ร่วมกันกระทำผิดอีกหลายคนที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้หมด เป็นทีมงานสังหารทีมใหญ่ ทำงานกันหลายคน

     นอกจากเรื่องดาบจ๊อดกองปราบแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคดีคือ คดีฆ่าโหด พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รอง ผบก.น.9 แม้จะผ่านมาร่วม 20 ปีแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจับตัวกลุ่มคนร้ายได้ เขาบอกว่าคดีนี้มันเป็นการหยามเกียรติตำรวจจนเกินไป ในฐานะที่เขาก็เป็นตำรวจคนหนึ่งเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดมากและอยากให้ลากคอคนร้ายมารับโทษให้ได้
      ทั้ง 2 คดี ถ้าเกิดมีพลเมืองดีท่านใดสามารถนำชี้จับตัวคนร้ายได้หรือมาเป็นพยานสำคัญนำไปสู่การออกหมายจับเพื่อจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ในคดี ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ สารวัตรแรมโบ้ยินดีมอบรางวัลนำจับคดีละ 100,000 บาท แต่มีข้อแม้ต้องเอาข้อมูลของคนร้ายในคดีนี้มามอบให้ที่ผมเท่านั้น และให้ผมสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ตามกฏหมาย  โดยมีผมเป็นผู้จับกุมร่วมกับตำรวจในราชการอาจจะเป็นตำรวจชั้นประทวนใดคนหนึ่งก็ได้ ทั้ง 2 คดีสำคัญๆ น่าจะใกล้หมดอายุความไม่เกินปี พ.ศ 2571-2572  ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศทุกนายให้ช่วยกันทุ่มเทสรรพกำลังความรู้ความสามารถให้จับกุมคนร้ายสำคัญให้ได้ทั้ง 2 คดีพร้อมกัน ก่อนที่จะขาดอายุความ


     "สารวัตรแรมโบ้" ผู้มีสีกากีในสายเลือด ยังแสดงความห่วงใยถึงตำรวจรุ่นหลัง โดยฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการพิจารณาแต่งตั้งว่า "ควรยึดระบบอาวุโสมากกว่า 50%" เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงานจริง และ ก.ตร. เอง ก็ควรทำให้ได้อย่างที่พูด ไม่ใช่ดีแต่ขายฝันในช่วงหาเสียง
     “สารวัตรแรมโบ้” ยังเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพว่า ที่ยังดูแข็งแรงไม่ทรุดโทรมไปตามวัยเพราะไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ และยังออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ  เลือกทานอาหารที่เป็นยา  ทานอาหารที่มีประโยชน์  สวดมนต์แผ่เมตตาทุกวัน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้มีจิตใจที่แจ่มใสอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง


      ปัจจุบัน พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือที่ "สารวัตรแรมโบ้" มือปราบสีกากี แม้จะเกษียณมาตั้งแต่ปี 2561 แต่เขายังนึกถึงวงการสีกากีอยู่เสมอ ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ มีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ควบคู่กับ ความรู้และคุณธรรม ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิต และการบริหารจัดการธุรกิจ ตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกับนางฐิติณ์ชญา (ภรรยา) ทั้งซื้อขายที่ดิน ทำโรงงานผลิตอาหารเสริม สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โรงงานผลิตน้ำดื่มกลิ่นใบเตย โรงงานผลิตน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ และยังเป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศ ไทยด้วย


      รวมทั้ง ร้านเฮือนอิงภู เป็นร้านอาหารคุณภาพ มีมาตราฐาน ด้วยเมนูที่หลากหลาย แต่ที่สำคัญคืออาหารสะอาด ถูกหลักอนามัย และอร่อย รับรองท่านทานแล้วจะต้องติดใจ ทานอาหารอร่อย และเป็นกันเองอย่างอบอุ่น ในบรรยากาศเปิดโล่ง สบายๆ ชิวๆ แถมที่นี่ก็ยังมีคาเฟ่ที่สวยงาม ไว้บริการกาแฟและเครื่องดื่มอีกด้วย มาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน         
     ร้านเฮือนอิงภู" เลขที่ 494 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปมาก็สะดวกสบาย "ร้านเฮือนอิงภู" ลงจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ M6 ก็เจอเลย อยู่ทางซ้ายมือ 










วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตา - ฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อยุธยา พิจิตร สุโขทัย และอุตรดิตถ์

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตา - ฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อยุธยา พิจิตร สุโขทัย และอุตรดิตถ์ 

แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค มอบเงินช่วยเหลือกรณีบ้านพังทั้งหลัง และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิต 

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมงบฯ กว่า 3.4 ล้านบาท



      ระหว่างวันที่ 25 – 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ และนายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย จัดทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และทีมบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปฏิบัติการ ลงพื้นที่ซับน้ำตาผู้ประสบอุทกภัยในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ในพื้นที่จังหวัดอยุธยา พิจิตร สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน และน้ำปลา รวมจำนวน 5,500 ชุดๆ ละ 450 บาท โดยในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มูลนิธิฯ ได้มอบเงินสงเคราะห์กรณีบ้านเรือนที่เสียหายจากอุทกภัย หลังละ12,000 บาท จำนวน 65 หลัง นอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดอยุธยาและอุตรดิตถ์ มูลนิธิฯ ได้มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตรวมจำนวน 11 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการฟื้นฟูหลังน้ำลดในรอบนี้ทั้งสิ้น 3,475,000 บาท (สามล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นห้าพันบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย และสมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ


     เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ กรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์


      นับตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2568 เป็นต้นมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแล้วทั้งสิ้น 15 จังหวัด รวมงบประมาณการช่วยเหลือไม่ต่ำกว่า 24.1 ล้านบาท

     ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้านต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568

TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย

TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย 

เฟ้นหาดาวดวงใหม่ แห่งวงการลูกหนังอาเซียน
8 ทีมเยาวชนชั้นนำจาก 4 ชาติ ดวลแข้งศึกฟุตบอลนานาชาติ 


 
    องค์กร Japan Dream Football Association (JDFA) ร่วมกับ บริษัท เทยิน  โพลีเอสเตอร์ จำกัด ผู้สนับสนุนหลักการแข่งขัน ได้เปิดฉากการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ รายการ TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 อย่างยิ่งใหญ่ทัวร์นาเมนต์นี้ได้รวมสุดยอดนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี จาก 8 สโมสรชั้นนำของ 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม และเมียนมา เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และก้าวสู่การเป็นดาวดวงใหม่แห่งวงการลูกหนังเอเชีย การแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน 2568 ณ ธนบุรี สเตเดี้ยม


     มร. มาซาโอะ คิบะ ผู้จัดการแข่งขัน และประธานองค์กร JDFA กล่าวว่า "JDFA มีเป้าหมายในการเฟ้นหาผู้เล่นที่มีศักยภาพสู่เจลีกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การสนับสนุนจากบริษัท เทยิน โพลีเอสเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดันให้เยาวชนไทยเติบโตและพัฒนาทักษะรอบด้าน ทั้งในด้านกีฬา สังคม และชีวิตประจำวันเราต้องการให้ผู้เล่นเยาวชนเหล่านี้ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พัฒนาทักษะฟุตบอล และเรียนรู้กับนักฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอนาคตของฟุตบอลไทย"



     การแข่งขัน รายการ TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย จัดขึ้นในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ โดยแบ่งทีมเข้าร่วมออกเป็น 2 สาย ดังนี้
กลุ่ม A ได้แก่ บีจี ปทุม (BG Pathum) ประเทศไทย พราม เอฟซี (Prime FC) ประเทศไทย ท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี (THAKHAM Chonburi FC) ประเทศไทย และ ฟัลคอน เอฟซี (Falcon FC) ประเทศเมียนมา
กลุ่ม B ได้แก่ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด (Assumption United) ประเทศไทย ราชนาวี เอฟซี (Rajnavy FC) ประเทศไทย พีวีเอฟ เวียดนาม (PVF Vietnam) ประเทศเวียดนาม และ อิวากิ เอฟซี (IWAKI FC) ประเทศญี่ปุ่น



     โดยทีมชนะเลิศของแต่ละสายจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยนอกจากจะได้รับถ้วยรางวัลแล้ว ยังมีรางวัลสำหรับผู้เล่นดีเด่น (Most Valuable Player) และรางวัลผู้ทำคะแนนยิงประตูยอดเยี่ยม (Top Scorer Award) อีกด้วย


     นอกจากนี้ มร. คาซูชิเกะ อาซาดะ บริษัท เทยิน โพลีเอสเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมถึงการสนับสนุนการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ว่า “กลุ่มบริษัทเทยินมีวิสัยทัศน์ระยะยาวในการเป็น บริษัทที่ลำเลียงสังคมแห่งอนาคต และได้วางรากฐานทางธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานเกือบ 60 ปี เราให้การสนับสนุนการพัฒนาเยาวชนด้านกีฬาอย่างต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 และในฐานะบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลอย่างลึกซึ้ง ทั้งจากผลิตภัณฑ์ DELTA (ชุดฟุตบอลและชุดฝึกซ้อม) และหนังสังเคราะห์ CORDLEY (ที่ใช้ทำลูกฟุตบอลและรองเท้าสตั๊ด) การสนับสนุนรายการนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เราต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการฟุตบอลเยาวชนในภูมิภาคอาเซียนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น กลุ่มบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของโลกฟุตบอลเยาวชน ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการตั้งเป้าหมาย และมุ่งมั่นพยายามเพื่อก้าวไปสู่อนาคตข้างหน้าในฐานะนักกีฬาอาชีพที่ดี”


      การแข่งขัน "TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย” จึงเป็นมากกว่าการแข่งขันฟุตบอล แต่เป็นเวทีสำคัญในการสร้างเสริมประสบการณ์ระดับนานาชาติให้กับเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี ทั้ง 8 ทีม โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้พัฒนาทักษะและความแข็งแกร่งผ่านการเผชิญหน้ากับคู่แข่งจากญี่ปุ่น เวียดนาม และเมียนมา เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ประสบความสำเร็จในอนาคต แฟนบอลและผู้สนใจสามารถติดตามผลการแข่งขันและให้กำลังใจนักเตะเยาวชนเหล่านี้ได้ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน 2568 ณ ธนบุรี สเตเดี้ยม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือผ่านช่องทางแฟซบุ๊กเพจ  U-17 NGC 

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568

PMCU จัดงาน "PMCU CAREERS CONNECT" ร่วมกับบริษัทชั้นนำและแบรนด์ดัง

PMCU จัดงาน "PMCU CAREERS CONNECT"

ร่วมกับบริษัทชั้นนำและแบรนด์ดัง 

เปิดโลกการทำงานจริงเพื่อนิสิตจุฬาฯ ทุกชั้นปี


       สำนักงานทรัพย์สินจุฬา หรือ PMCU ร่วมกับบริษัทชั้นนำและแบรนด์ดังในพื้นที่กว่า 40 แบรนด์ หลากหลายธุรกิจทั้ง ศูนย์การค้า, อาหาร,  ข่าว, บันเทิง, Retail เดินหน้ายกระดับการเรียนรู้และประสบการณ์ทำงานของนิสิตจุฬาฯ จัดงานใหญ่ครั้งแรก! "PMCU CAREERS CONNECT" ระหว่างวันที่  29-30 ตุลาคม 2568 ณ ลานกิจกรรมโถงลิฟท์แก้ว ชั้น G จามจุรีสแควร์


      การจัดงาน "PMCU CAREERS CONNECT" มุ่งเน้นให้นิสิตทุกชั้นปีได้เตรียมความพร้อมและฝึกประสบการณ์ทำงานจริงอันประกอบด้วย

- Internship: เน้นการเข้าร่วมงานจริงกับแบรนด์ชั้นนำในพื้นที่ เพื่อสั่งสมประสบการณ์ในสายงานที่สนใจ

- Part-Time Job: งานพิเศษที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้นิสิตสามารถบริหารเวลาเรียนและการทำงานได้อย่างลงตัว ในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยที่นิสิตเดินทางไปทำงานได้สะดวก

- Case Competition: เวทีให้นิสิตได้โชว์ศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการแก้ปัญหา ผ่านการทำโจทย์จริงจากแบรนด์

- Special Project: โอกาสในการร่วมสร้างสรรค์และพัฒนา Project ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจไปพร้อมกับแบรนด์ต่างๆ


      โดยมีศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ  ภูริวัชร  อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานเปิดงาน "PMCU CAREERS CONNECT" พร้อมเปิดตัว “PLATFORM PMCU CAREERS CONNECT” อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเหล่าพันธมิตรที่มาร่วมงานออกบู๊ท แขกผู้มีเกียรติ และนิสิตจุฬาฯ ที่มาร่วมงานมากมาย ณ โถงลิฟท์แก้ว ชั้น G จามจุรีสแควร์ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม  2568



       การจัดงาน "PMCU CAREERS CONNECT" ในครั้งนี้ มีบริษัทชั้นนำมากมาย อาทิ PMCU, MBK GROUP, SIAMPIWAT, WORK POINT Entertainment, YUZU GROUP, NOVOTEL, CRG, POP MART, CP ALL, KRUNGTHAI, BBTV NEW MEDIA, TOP CHAROEN, RAVIPA, โอ้กะจู๋, KARAKED, ZEN GROUP, RUAYMAIYOOD, NET BAY, LIDO CONNECT, TRUE AFTHAILAND, จูนปัง, NINETIES, BEAUTRIUM, TOA, PACIFICA, ชาตรามือ,HAAB, ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน, MINISO, antidotes, STADIUM ONE, EVEANDBOY, CARNIVAL, TRUE LAB, Flex 104.5, jetts, SOS, Chula careers และ Yes webdesign ที่เปิดโอกาสให้นิสิตทุกชั้นปีได้สัมผัสโลกการทำงานจริง พร้อมสร้างรายได้ระหว่างเรียน




      สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสสำคัญสำหรับนิสิตจุฬาฯที่จะได้ก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน สัมผัสประสบการณ์จริง สร้างเครือข่าย และค้นพบศักยภาพของตนเองไปพร้อมกับการสร้างรายได้ มาก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน สัมผัสประสบการณ์จริง! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม : @pmcu_careersconnect

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ชวนชิม สุดยอด “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ชวนชิม  สุดยอด “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก       กลับมาอีกครั้งกับสุดยอดรสชาติดีที่สุดของ “ปูขน” ตั้งแต่วันนี้จนถึ...